10 วิธีการจัดการร้านอาหาร เพิ่มยอดขายอย่างมืออาชีพ

1. เมนูของคุณ

การสร้างสรรค์เมนูที่ยอดเยี่ยมนับเป็นศิลปะแห่งความสมดุลที่แท้จริง เพราะคุณต้องการจะนำเสนอตัวเลือกจำนวนมาก แต่คุณก็ไม่ต้องการทำให้ลูกค้าของคุณสับสนหรือรู้สึกว่ามากเกินไปเช่นกัน

คุณอาจคิดว่าการมีรายการอาหารจำนวนมากนั้นดีกว่า แต่จริง ๆ แล้วอาจทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้

• ลูกค้าใช้เวลานานขึ้นในการสั่งอาหาร
• ครัวใช้เวลานานขึ้นในการเสิร์ฟอาหาร
• คุณต้องซื้อหาวัตถุดิบจำนวนมากขึ้น
• เวลาโดยรวมของการหมุนเวียนโต๊ะจะช้ากว่า เนื่องจากแต่ละโต๊ะใช้เวลาในการเสิร์ฟนานขึ้น

คุณสามารถปรับปรุงเมนูของคุณได้ด้วยวีธีต่าง ๆ พร้อมด้วยการจัดการร้านอาหาร เช่น:

• ทำเมนูให้อ่านง่าย
• หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องหมายสกุลเงิน
• พาลูกค้าของคุณท่องไปในโลกของอาหาร นักเขียนเก่ง ๆ สามารถทำให้เมนูดูน่าสนใจและชวนน้ำลายสอได้
• คอยดูแลความสะอาดของเล่มเมนูของคุณอยู่เสมอ อย่าให้เปื้อนเศษอาหารหรือคราบมัน เปลี่ยนเมนูเล่มที่เสียหาย และอย่าลบคำผิดหรือทำเครื่องหมายสิ่งที่ผิดพลาดหรือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในเมนู เพราะจะดูไม่เป็นมืออาชีพ
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพนักงานรู้จักเมนูจริง ๆ และสามารถตอบคำถามหรือให้คำแนะนำลูกค้าได้
• ใส่เมนูไว้ในเว็บไซต์ของคุณและดูให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณสามารถใช้งานด้วยโทรศัพท์มือถือได้ง่าย

คุณอาจลองพิจารณาวิธีการจัดการร้านอาหาร เหล่านี้ดูด้วย

• การใช้เมนูดิจิทัลแบบ QR Code เพื่อให้การสั่งอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• การออกแบบเมนูที่เรียบง่ายเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้น
• การใส่ตัวเลือกเครื่องดื่มที่น่าสนใจและแปลกใหม่เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายเครื่องดื่มของคุณ

2. การบริการลูกค้า

ความประทับใจแรกเป็นเรื่องสำคัญในการทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่จดจำได้ การบริการที่แย่จะฉุดอาหารรสเยี่ยมและร้านให้กลายเป็นไม่น่าดึงดูดใจ ในทางกลับกัน ลูกค้าที่พึงพอใจจะกลับมาใช้บริการอีกและแนะนำคุณให้ผู้อื่นรู้จักด้วย

ดูให้แน่ใจว่าพนักงานของคุณได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีการรับมือกับข้อร้องเรียนทั่วไปของลูกค้าในธุรกิจอาหาร ยกตัวอย่างเช่น พนักงานของคุณเข้าใจวิธีจัดการกับลูกค้าที่ร้องเรียนเกี่ยวกับสิ่งผิดปกติในออเดอร์ของพวกเขาหรือไม่ พนักงานของคุณเข้าใจวิธีการปฏิบัติอย่างสุภาพต่อลูกค้าที่เป็นผู้ทุพพลภาพหรือไม่

การลงทุนในการฝึกอบรมเพิ่มเติมในด้านการบริการลูกค้าให้กับพนักงานหน้าร้านของคุณจะเห็นผลเมื่อคุณเริ่มได้รับการรีวิวทางออนไลน์ที่ยอดเยี่ยมโดยลูกค้าที่ชื่นชมการบริการของคุณ การให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้าผู้มารับประทานอาหารนั้นเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การดูแลเรื่องคุณภาพอาหารและเครื่องดื่มที่คุณเสิร์ฟลูกค้าเลย

3. จุดขายเฉพาะของคุณ (USP)

ทำไมลูกค้าของคุณจึงควรมารับประทานอาหารที่ร้านของคุณแทนที่จะเป็นร้านข้าง ๆ ลองคิดหาคำตอบให้กับคำถามข้อนี้ เพราะนี่แหละคือจุดขายเฉพาะของคุณ (Unique Selling Point – USP)

เมนูที่ดีและการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยมเป็นสิ่งสำคัญต่อการประสบความสำเร็จในธุรกิจของคุณ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองอย่างนี้ไม่ใช่จุดขายเฉพาะเนื่องจากธุรกิจอาหารไหน ๆ ก็สามารถมีทั้งสองอย่างนี้ได้ คุณต้องมีแนวคิดที่แปลกใหม่และเหตุผลที่น่าสนใจว่าทำไมลูกค้าจึงควรกลับมาที่ร้านอาหารของคุณมากกว่าร้านอื่น

ไปให้ไกลกว่าที่คุณตั้งใจไว้และมอบอะไรใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าซึ่งจะเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขากลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า! บางทีคุณอาจนำเสนอเครื่องดื่ม ของหวาน หรือบุฟเฟต์ที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้น คุณอาจจะมีเชฟชื่อดังทำงานอยู่ในครัวของคุณ หรือคุณอาจใช้เนื้อสัตว์จากพืช (Plant-based Meat) ในรูปแบบใหม่ที่เร้าใจ

ไม่ว่าจุดขายเฉพาะของคุณจะเป็นอะไร ให้ความสำคัญกับมันและทำให้แน่ใจว่าลูกค้าของคุณรู้จักจุดขายของคุณ

4. การดำเนินการ

การจัดการคาเฟ่หรือร้านอาหารของคุณแบบวันต่อวันนั้นเป็นเรื่องสำคัญ แต่คุณก็จำเป็นต้องคอยดูภาพรวมด้วยเช่นกัน เมื่อคุณถอยกลับไปมองขั้นตอนต่าง ๆ แบบองค์รวม คุณจะสามารถระบุปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น ตอบสนองต่อสิ่งที่ผู้บริโภคนิยม รวมถึงกำจัดความไร้ประสิทธิภาพที่ทำให้คุณเสียเงินได้

คุณรับรองลูกค้ากี่คนต่อวัน

• คุณทราบหรือไม่ว่าเมนูที่ทำกำไรได้มากที่สุดคืออะไรบ้าง เมนูเหล่านี้ขายได้มากกว่าเมนูที่ทำกำไรได้น้อยที่สุดหรือไม่
• คุณมีกำไรและค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ในแต่ละอาทิตย์ที่คุณเปิดร้าน
• ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของคุณมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน คุณสามารถลดขยะอาหาร (Food Waste) ด้วยการกระชับคำสั่งซื้อของคุณและการบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้หรือไม่

การรู้คำตอบต่อคำถามเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญในการลดค่าใช้จ่ายประจำและการรักษาผลกำไรให้มากขึ้น ยิ่งคุณทำกำไรได้มากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งสามารถลงทุนซ้ำเพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้มากเท่านั้น

5. การรักษาพนักงานให้อยู่กับคุณ

การสนับสนุนและรักษาพนักงานที่ดีเอาไว้สามารถช่วยประหยัดทั้งเวลาและเงินให้กับธุรกิจของคุณ พร้อมกับที่รักษาทักษะการทำงานที่มีค่าซึ่งอาจหามาแทนได้ยากเอาไว้ได้

สุดยอดเคล็ดลับ 5 ข้อในการรักษาพนักงานบริการเอาไว้ก็คือ

• จงหนักแน่น ยุติธรรม และยืดหยุ่น พนักงานจำเป็นต้องทราบความคาดหวังขั้นต่ำที่คุณมีต่อพวกเขาตั้งแต่วันแรก จงยืดหยุ่นให้เป็น อุตสาหกรรมนี้มีชั่วโมงทำงานที่ต่างไปจากธุรกิจอื่น ๆ ดังนั้นพนักงานจึงจำเป็นต้องมีวันหยุดสุดสัปดาห์เป็นประจำเช่นกัน
• ใช้การกระทำเป็นตัวอย่างให้เห็น จงแสดงออกถึงความเป็นผู้นำ จริยธรรมในการทำงาน และวุฒิภาวะอยู่ตลอดเวลา
• ตรวจสอบและให้รางวัล ดำเนินการตรวจสอบพนักงานเป็นประจำและวางแผนการให้โบนัสและรางวัลแก่พนักงาน
• อย่าลืมที่จะสื่อสาร การสื่อสารที่ดีสำคัญมากต่อความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ และความสัมพันธ์กับพนักงานก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
• แสดงความคิดเห็น ความคิดเห็นที่สร้างสรรค์ มีความหมาย และตรงไปตรงมาจะส่งผลที่น่าทึ่งต่อพนักงานของคุณ และที่สุดแล้ว มันยังสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้นได้ด้วย

เมื่อคุณสนับสนุนพนักงานของคุณ คุณจะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้เมื่อเวลาผ่านไป และจะทำให้ประสบการณ์การรับประทานอาหารของลูกค้าดีขึ้น การมีพนักงานที่กระตือรือร้นและได้รับการอบรมมาอย่างดีเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่คุณจะมีได้ในอุตสาหกรรมการบริการอาหาร

6. การตลาด

การตลาดเป็นเรื่องของการดึงดูดลูกค้าใหม่มาสู่ธุรกิจของคุณและการรักษาลูกค้าเก่าเอาไว้ แผนการตลาดที่ดีเป็นหนึ่งในวิธีที่มีพลังที่สุดในการทำให้ธุรกิจของคุณเจริญเติบโตและการทำกำไรได้มากขึ้น

วิธีการจัดการร้านอาหารง่าย ๆ ที่จะช่วยคุณได้ เช่น

• สร้างแผนการตลาด ตั้งเป้าหมายสิ่งที่คุณต้องการบรรลุและทำให้สำเร็จโดยใช้หลัก SMART ซึ่งหมายถึง เฉพาะเจาะจง (Specific), วัดผลได้ (Measurable), ทำได้จริง (Achievable), สอดคล้องสมเหตุผล (Relevant) และกำหนดเวลาชัดเจน (Timely) แผนของคุณควรยืดหยุ่นได้และใช้เวลาสั้น สัก 6-10 เดือน
• กำหนดมาตรฐานแบรนด์ของคุณให้เป็นทางการ รวมไปถึงการตั้งพันธกิจของบริษัท (Mission Statement) โลโก้ ภาพกราฟิก คู่มือ (Guideline) ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้การส่งสารทั้งหมดของคุณสอดคล้องกัน
• ลองคิดเกี่ยวกับการทำการตลาดดิจิทัลสำหรับธุรกิจของคุณดู สื่อโซเชียลและเว็บไซต์เป็นเครื่องมือสำคัญหากคุณต้องการเติบโต ลองพิจารณาการลงทุนในสื่อโซเชียลหรือการทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาบนอินเทอร์เน็ต (Search Engine Marketing) ตอบความคิดเห็นในเว็บไซต์รีวิว แม้แต่ความคิดเห็นในเชิงลบ (จงแสดงความเป็นมืออาชีพ) ลองคิดเกี่ยวกับการทำการตลาดดิจิทัลสำหรับธุรกิจของคุณดู สื่อโซเชียลและเว็บไซต์เป็นเครื่องมือสำคัญหากคุณต้องการเติบโต ลองพิจารณาการลงทุนในสื่อโซเชียลหรือการทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาบนอินเทอร์เน็ต (Search Engine Marketing)
• ตอบความคิดเห็นในเว็บไซต์รีวิว แม้แต่ความคิดเห็นในเชิงลบ (จงแสดงความเป็นมืออาชีพ)
• พัฒนาความสัมพันธ์กับชุมชนและธุรกิจอื่น ๆ ในพื้นที่ พวกเขาช่วยกระจายข่าวได้

ใส่ความคิดสร้างสรรค์ในการตลาดของคุณ ไม่ว่าคุณจะมีงบประมาณเท่าไหร่ ก็มีวิธีการมากมายที่ไม่ต้องลงทุนสูงเพื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจของคุณได้

วิธีการจัดการร้านอาหาร ด้วยการประชาสัมพันธ์คาเฟ่หรือร้านอาหารของคุณในราคาประหยัด เช่น

• การสร้างโปรแกรมความภักดี (Customer Loyalty Program) เพื่อให้ลูกค้าอยากแนะนำธุรกิจของคุณแก่คนอื่นมากขึ้น
• การซื้อสื่อการตลาดราคาย่อมเยาเพื่อใช้ในคาเฟ่หรือร้านอาหารของคุณ เช่น ใบปลิวและแม่เหล็กติดตู้เย็น
• การสร้างแฮชแท็กสำหรับธุรกิจของคุณเพื่อให้ลูกค้าสามารถแท็กคุณในโพสต์สื่อโซเชียลที่เกี่ยวข้องกับอาหารและเครื่องดื่มของคุณได้
• การสร้างความสัมพันธ์กับสื่อท้องถิ่นจะช่วยคุณดึงดูดลูกค้า ด้วยการประชาสัมพันธ์เมนูใหม่ตามฤดูกาลหรือกิจกรรมที่จัดขึ้นที่ร้านคาเฟ่หรือร้านอาหารของคุณ

7. งบกระแสเงินสด (Cash flow)

การมีงบกระแสเงินสดที่ดี คือกุญแจสู่ความสำเร็จของธุรกิจ หากกระแสเงินสดของธุรกิจคุณมีปัญหา คุณอาจลองแก้ไขด้วยวีธีเช่น

• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากเมนูของคุณ หากคุณคิดว่าราคาต่ำเกินไป หรือคิดว่าคุณสามารถทำกำไรมากกว่านี้จากบางเมนูได้ ก็ขึ้นราคาเลย
• จัดการคลังสินค้าและตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้วิธีการหมุนเวียนที่เหมาะสมเพื่อลดความสิ้นเปลือง
• การจัดทำงบประมาณที่มีประสิทธิภาพและการรายงานการจัดการเป็นสิ่งสำคัญ ลงเรียนหลักสูตรสั้น ๆ หากคุณจำเป็นต้องเพิ่มทักษะในด้านนี้
• พิจารณาสมัครสินเชื่อเพื่อให้คุณสามารถดึงเงินทุนมาปิดช่องว่างในกระแสเงินสดของคุณ
• ปัดฝุ่นความรู้เกี่ยวกับการจัดการห่วงโซ่อุปทานของคุณและลองดูว่าคุณสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นอีกได้หรือไม่

อย่างน้อย เจ้าของร้านควรวางแผนให้มีเงินเพียงพอต่อการดำเนินกิจการหนึ่งปี นอกจากนี้ เจ้าของร้านอาหารจำเป็นจะต้องมีทรัพยากรทางการเงินเพียงพอที่จะรับมือกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดและการขึ้นราคา

สิ่งสำคัญคือคุณต้องสามารถระบุและแก้ไขปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับกระแสเงินสดได้

8. สมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว (Work-life Balance)

การรักษาสมดุลระหว่างงาน การจัดการร้านอาหาร และชีวิตส่วนตัวอาจเป็นเรื่องยากเมื่อคุณทำธุรกิจ การหาเวลาเพื่อจัดการเรื่องการสั่งซื้อ การเงิน เรื่องกะทำงาน การเปลี่ยนเมนู การตลาด และงานประจำวันทั่วไปนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

วิธีที่จะทำให้คุณสามารถเดินทางสายกลางอย่างมีความสุขได้ก็คือ

• การวางแผน ทำให้เป็นกิจวัตรประจำอาทิตย์เพื่อให้คนอื่นรู้ว่าเมื่อไหร่ที่คุณจะว่างและไม่เข้ามาทำงาน ทำให้แน่ใจว่าพวกเขารู้ว่าสามารถโทรหาคุณได้หากมีเรื่องด่วน
• การจัดลำดับความสำคัญ กำหนดรายการงานหลัก ๆ ของตัวเองและจัดการงานที่สำคัญก่อน
• แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพนักงานของคุณได้รับการอบรมอย่างดีและได้รับการจัดแบ่งความรับผิดชอบอย่างเหมาะสม นี่จะไม่เพียงแต่ช่วยแบ่งเบาภาระของคุณ แต่ยังทำให้คนที่ทำงานกับคุณได้เรียนรู้บางอย่างและรู้สึกมีส่วนร่วมมากขึ้น

การจัดการร้านอาหารและการจัดระเบียบให้ดีจะช่วยให้คุณสามารถมุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่งานได้และสามารถเลิกคิดเรื่องงานได้ง่ายเมื่อกลับบ้าน หากจำเป็น คุณอาจหาเวลาว่างสักนิดเพื่อคิดดูว่าคุณจะรักษาเส้นแบ่งที่ดีระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวในการทำธุรกิจของคุณได้อย่างไร

9. การหาพนักงานใหม่

อย่างที่เราเคยเขียนไว้ในบทความของเราเกี่ยวกับความท้าทายในการจัดหาพนักงานต้อนรับ ผู้ให้บริการเกี่ยวกับอาหารบางคนก็เคยประสบปัญหาเรื่องการหาพนักงานที่มีความสามารถมาร่วมทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานเสิร์ฟที่มีประสบการณ์

ทางออกก็คือ การให้ความสนใจกับการรับสมัครงานและกลยุทธ์ในการรักษาพนักงานเอาไว้ ดูให้ดีว่าคุณมีตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPI) ที่เหมาะสม โครงสร้าง และวัฒนธรรมที่จูงใจคนให้ทำงานให้คุณ ในขณะเดียวกันก็ควรเคารพคุณค่าในตัวพนักงานของคุณด้วย ให้ความใส่ใจกับสิ่งที่พนักงานของคุณบอกคุณ เพื่อที่จะได้สามารถทำให้ที่ทำงานน่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับพนักงานใหม่

คุณสามารถลองเพิ่มทักษะให้พนักงานเก่าของคุณหรือใช้ประโยชน์จากเทรนด์เทคโนโลยีร้านอาหาร เช่น ระบบจัดการร้าน (POS) ที่ทำงานบนคลาวด์ เพื่อที่คุณจะได้ไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานจำนวนมาก

การลงทุนในการอบรบและเทคโนโลยีสามารถช่วยให้คุณได้รับประโยชน์มากขึ้นจากพนักงานที่จ้างอยู่ปัจจุบันโดยไม่ต้องให้พวกเขาทำงานหนักเกินไป

10. ความสะอาดปลอดภัยของอาหาร (Food Safety)

การรักษาอาหารให้สะอาดปลอดภัยเป็นหนึ่งในความท้าทายหลัก ๆ ที่ร้านอาหาร คาเฟ่ รวมถึงผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มต้องเผชิญ เนื่องจากเรื่องอาหารปลอดภัยเป็นความกังวลหลักที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ คุณจึงควรทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้แน่ใจว่าอาหารที่คุณเสิร์ฟมีคุณภาพสูงและปลอดการปนเปื้อนใด ๆ

ต่อไปนี้คือความผิดพลาดเกี่ยวกับความสะอาดปลอดภัยของอาหารที่หลายธุรกิจเคยทำและเคล็ดลับเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้

• การทิ้งอาหารที่ปรุงสุกหรือพร้อมทานไว้ที่อุณหภูมิห้องนานกว่า 4 ชั่วโมง คอยดูแลให้อุปกรณ์เก็บความเย็นและความร้อนของคุณทำงานเป็นปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
• การมีระดับแบคทีเรียสูงในอาหารของคุณ ดูแลอุปกรณ์ของคุณ น้ำประปา สถานที่สำหรับจัดเก็บ และแม้แต่การฝึกอบรมพนักงานให้ได้มาตรฐาน
• การใช้ภาชนะหรือพื้นผิวที่สกปรกซึ่งทำให้วัตถุดิบปนเปื้อน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นผิวที่คุณใช้ประกอบอาหารได้รับการทำความสะอาดทุกวันด้วยน้ำสบู่ร้อน ๆ และฆ่าเชื้อก่อนใช้งาน
• เรียนรู้เพิ่มเติมเรื่องการปฏิบัติตามหลักอาหารปลอดภัยในห้องครัว

แน่นอนว่าปัญหาร้านอาหารสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นหากผู้ประกอบการมีการจัดการร้านอาหาร แก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดและเป็นระบบก็จะช่วยให้การบริหารร้านอาหารนั้นราบรื่นขึ้นได้ อีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่สามารถแบ่งเบาภาระการจัดการร้านอาหารได้ดีคือ เลือกสั่งวัตถุดิบในร้านกับพาร์ทเนอร์ที่มีประสบการณ์และไว้ใจได้อย่าง เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ที่เข้าใจธุรกิจร้านคาเฟ่และร้านอาหารอย่างแท้จริง มีวัตถุดิบที่ครบครัน เช่น เครื่องปรุง ชา กาแฟ และน้ำผลไม้สำเร็จรูป พร้อมบริการส่งตรงถึงหน้าร้าน เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ประกอบการ อย่าพลาดติดตามและอัปเดตเทรนด์ธุรกิจอีกเพียบได้ที่นี่ หรือซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายๆ คลิกที่นี่  ใน LINE @NestleProfessional และสามารถติดต่อทีมงานเนสท์เล่ โพรเฟชชันนัลทั่วประเทศ โทร.02-657-8625 กด 1