ถอดโมเดลร้านกาแฟ Café Nescafé โมเดลธุรกิจร้านกาแฟสด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันเทรนด์คาเฟ่ฮอปปิ้งกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่และคอกาแฟสด ที่มองหาร้านกาแฟคุณภาพดี มีมุมสวย ๆ ที่สามารถนั่งจิบกาแฟ และถ่ายรูปได้ เพื่อผ่อนคลาย สร้าง Quality Moment ให้ชีวิต หรือไว้ทำคอนเท้นต์เก๋ ๆ ลงโซเชียลมีเดีย ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการจำเป็นต้องควบคุมต้นทุน พร้อมรักษาคุณภาพของสินค้า และบริการให้อยู่ในระดับที่ผู้บริโภคคาดหวัง อีกทั้งปัจจัยอื่นๆ ที่ควบคุมไม่ได้ที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญก็ถือเป็นความท้าทายซึ่งทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัว เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้

จากความท้าทายดังกล่าว หากผู้ประกอบการไม่ปรับตัวให้ทันตามพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าร้านกาแฟเล็กๆ ตามริมถนน หรือร้านกาแฟอินดี้ที่มีแค่สาขาเดียวตามตึกแถว หรือเชนร้านกาแฟใหญ่ ๆ ที่มีหลายสาขา ก็มีโบกมือลากันไปแล้วหลายราย จะเห็นได้ว่าการทำร้านกาแฟให้ประสบความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถ

วันนี้ เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ในฐานะมืออาชีพที่เข้าใจธุรกิจร้านกาแฟเป็นอย่างดี จึงจะขอถอดบทเรียนโมเดลธุรกิจร้านกาแฟ Café Nescafé อะไรที่ทำให้คาเฟ่จากแบรนด์กาแฟอันดับหนึ่งของไทย กลายเป็นคาเฟ่สุดชิลที่กำลังครองใจเหล่าคอกาแฟสดและสายคาเฟ่ฮอปปิ้งอยู่ในขณะนี้

บทที่ 1 คอนเซ็ปต์ดี ดึงดูดลูกค้าเข้าร้านรัว ๆ

เมื่อผู้ประกอบการต้องการจะลงทุนเปิดร้านกาแฟสด หัวข้อที่ควรคำนึงถึงเป็นสิ่งแรกคือ “คอนเซ็ปต์ร้าน”เพราะร้านที่มีคอนเซ็ปต์โดดเด่นจะง่ายต่อการจดจำ และสามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้มากขึ้น นำไปสู่โอกาสทางธุรกิจร้านกาแฟที่จะเติบโตอย่างมั่นคงขึ้นด้วย อย่าง “Café Nescafé” ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์อันแตกต่าง Disrupts ตลาดคาเฟ่ด้วยการนำเสนอคอนเซ็ปต์ “Lift Up A Good Spirit ปลุกทุกความรู้สึกดี ๆ” ไปด้วยกันกับกาแฟสดคุณภาพ สัมผัสประสบการณ์ และเรื่องราวดี ๆ ที่ Café Nescafé รวมทั้งยกระดับบริการด้วยความใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการคัดสรรเมล็ดกาแฟสดคุณภาพเยี่ยม การตกแต่งร้านด้วยโต๊ะ – เก้าอี้ ที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้จากกากกาแฟ และซองเนสกาแฟที่ใช้แล้ว เพื่อรณรงค์ในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการกระตุ้นให้สังคมไทย หันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม อันเป็นแนวคิดที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาด​

บทที่ 2 กาแฟสดคุณภาพ รสชาติที่ใช่ ลูกค้าติดใจ ขายคล่อง

เพื่อรังสรรค์กาแฟสดที่มีรสชาติอร่อย ถูกปาก ถูกใจผู้บริโภค นอกจากผู้ประกอบการจะต้องให้ความสำคัญกับสูตรเครื่องดื่มที่มีความหลากหลาย อุปกรณ์ และวัตถุดิบแล้ว “เมล็ดกาแฟ” ก็เป็นส่วนสำคัญที่สุดที่ทำให้กาแฟแก้วนั้นๆ มีรสชาติดี นำไปสู่การซื้อซ้ำ และกลับมาใช้บริการจนเป็นขาประจำนั่นเอง จะเห็นได้ว่าโมเดลธุรกิจร้านกาแฟ Café Nescafé พร้อมปลุกทุกความรู้สึกดีๆ ด้วยกาแฟสด ที่รังสรรค์จากเมล็ดกาแฟคุณภาพที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี จึงทำให้รสชาติกาแฟมีมิติครบรสอย่างลงตัว อร่อยทั้งเมนูร้อนและเย็น และเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ กาแฟสดทุกแก้วที่ทาง Café Nescafé เสิร์ฟให้ลูกค้าจะถูกควบคุมเวลาในการสกัดอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้ความหอมกรุ่นของกาแฟ และรสชาติที่ดีที่สุดนั่นเอง 

บทที่ 3 เมนูหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกรสนิยมของผู้บริโภค 

กาแฟยังมีหลากหลายสายพันธุ์ แน่นอนว่ารสนิยมในการเลือกเมนูเครื่องดื่มของคอกาแฟก็ย่อมแตกต่างกัน ยิ่งในยุคที่ร้านกาแฟสดมีมากมายขนาดนี้ ร้านของเราต้องสร้างความประทับใจให้ลูกค้าด้วย การมีเมนูหลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค อย่าง Café Nescafé ที่รังสรรค์เมนูมาให้ลูกค้าเลือกสรรมากถึง 30 เมนู

ดังนั้นคำว่า ‘จำเจ’ จะไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของ Café Nescafé อย่างแน่นอน นอกจากเมนูที่หลากหลายแล้ว อีกหนึ่งหมัดเด็ดที่แต่ละคาเฟ่ เชือดเฉือนกันอย่างดุเดือดเสมอมานั่นคือ ‘เมนูซิกเนอเจอร์’ ทาง Café Nescafé เอง ก็มีเมนูเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร มาคอยสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ลูกค้า ได้แก่ The Black Lime เอสเพรสโซ่ช็อตเข้มๆ จากกาแฟสดคุณภาพ ออนท็อปลงบนน้ำมะนาวโซดา รสเข้มๆ ผสานกับความเปรี้ยวซ่า ช่วยปลุกความสดชื่นได้ตลอดวัน และ The Black Amber รสชาติเข้มข้นจากกาแฟ และความหอมละมุนของกลิ่นชาไทยสูตรพิเศษ เป็นความลงตัวที่ช่วยปลุกพลังได้อย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ ยังมีเมนูไฮไลท์ที่ตอบรับกระแสรักษ์โลกอย่าง Cold Brew กาแฟเข้มข้นสกัดเย็น ที่ทำจากเมล็ดกาแฟที่ผ่านมาตรฐาน Rain Forest Alliance Certificate หรือ RFA การันตีได้ว่าทุกขั้นตอนการปลูกคำนึงถึงความยั่งยืนของระบบนิเวศจากแหล่งเพาะปลูกกาแฟที่ยั่งยืน

บทที่ 4 คาเฟ่สายกรีน ไม่ตกเทรนด์ แถมได้ใจลูกค้า

สังเกตไหมว่าสังคมรอบข้างมีการใส่ใจเรื่องภาวะโลกร้อนกันมากขึ้น ดังนั้นในฐานะผู้ประกอบการร้านกาแฟสด ที่ถือได้ว่าเป็นสถานที่ก่อให้เกิดขยะ ทั้งพลาสติกใช้แล้วทิ้ง และขยะจากอาหารเป็นจำนวนไม่น้อย ก็ควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกว่า การจ่ายเงินที่ร้านนี้ ได้รับทั้งสินค้าคุณภาพ บริการที่ดีเยี่ยม และความรู้สึกที่ได้ช่วยรักษ์โลกไปพร้อมๆ กัน  อย่าง Café Nescafé ที่มุ่งมั่นปลุกทุกความรู้สึกดีๆ ด้วยการสร้างสิ่งดีๆ ให้กับโลก โดยการเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยรณรงค์ในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมและการลดขยะ ด้วยการตกแต่งร้านด้วย “เฟอร์นิเจอร์จากวัสดุรักษ์โลก”ทั้งในส่วนของโต๊ะและเก้าอี้ที่ผลิตมาจากวัสดุอัพไซเคิลจากกากกาแฟ และซองเนสกาแฟที่ใช้แล้วมาแปรรูปเป็นไม้พลาสติก Wood Plastic Composite อีกทั้งทุกสาขาของธุรกิจร้านกาแฟ Café Nescafé จะเสิร์ฟกาแฟในแก้ว Sip Cup ที่สามารถจิบกาแฟจากแก้วได้โดยไม่ต้องใช้หลอด นอกจากจะช่วยลดการใช้หลอดพลาสติกแล้ว ตัวแก้วยังสามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ 100% อีกด้วย

บทที่ 5 คอลแลปส์ สร้างโอกาสพิเศษ ขยายกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น

ธุรกิจร้านกาแฟในรูปแบบการตลาดแบบ Collaboration หรือ การ ‘x’ กันของแบรนด์ นับเป็นการตลาดที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน เพราะ นอกจากช่วยสร้างความน่าสนใจให้แบรนด์แล้ว ยังช่วยดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคให้กว้างมากขึ้น แม้ว่าการคอลแลปส์ของแต่ละ แบรนด์จะมีสินค้าคนละรูปแบบ แต่กลับทำให้เกิดสินค้าในรูปแบบใหม่ขึ้นมาเสมอ อีกทั้งยังเป็นการก่อให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ในการต่อยอดจากแบรนด์เดิมอีกด้วย อย่างธุรกิจร้านกาแฟ Café Nescafé ที่ปลุกทุกความรู้สึกดีๆ ด้วยคอลเลคชั่นพิเศษเป็นการปลุกกระแสกรีนไลฟ์สไตล์ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยในแคมแปญนี้ ได้คอลแลปส์กับศิลปินสตรีทอาร์ต “อเล็ก เฟส” ที่นำกราฟฟิตี้คาแรคเตอร์ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์อย่างเด็กสามตาในชุดกระต่าย มาสร้างสรรค์ไอเทมรักษ์โลกให้เหล่าคอกาแฟได้เลือกสะสมในคอลเลคชั่น “Café Nescafé x Alex Face” เช่น แก้ว Reusable ที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้ แก้วเก็บอุณหภูมิขนาด 16 ออนซ์ และกระเป๋าผ้าแคนวาสรักษ์โลกสุดชิค เพื่อลดการใช้ถุงพลาสติก จะเห็นได้ว่านอกจากเป็นไอเทมที่คอกาแฟนิยมสะสม เอาใจผู้บริโภคที่ใช้ชีวิตแบบกรีนไลฟ์สไตล์แล้ว ยังทำให้แบรนด์ได้ขยายกลุ่มลูกค้าที่เสพงานอาร์ตได้อีกด้วย

ท่ามกลางสงครามตลาดร้านกาแฟที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด เคล็ดลับการเติบโตของ Café Nescafé ถือเป็นบทเรียนที่น่าเรียนรู้ และหากใครที่ฝันอยากลงทุนเปิดร้านกาแฟสดเป็นของตัวเอง นี่คือโอกาสทอง เพราะ เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ได้เปิด Café Nescafé ให้ผู้ที่มีความฝันอยากเปิดธุรกิจร้านกาแฟ ได้สานฝันให้เป็นจริง สามารถเลือกขนาดโมเดลธุรกิจร้านกาแฟที่ตอบโจทย์ความต้องการในการลงทุนของตัวเองได้ มีอุปกรณ์ทั้งเครื่องชงกาแฟ วัตถุดิบในการรังสรรค์เมนูเครื่องดื่ม และเบเกอรีส่งตรงถึงหน้าร้าน อีกทั้งมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจร้านกาแฟคอยดูแล ให้คำปรึกษา ดังนั้น Café Nescafé นอกจากจะเป็นโมเดลธุรกิจร้านกาแฟที่เหมาะกับคนที่อยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเองแล้ว ด้วยรูปแบบโมเดลธุรกิจที่เป็นคาเฟ่ครบวงจร หรือ One-Stop Business Solutionจึงสามารถดึงดูดลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม ทำให้ผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนเปิดร้านกาแฟ มีโอกาสทำกำไรอย่างต่อเนื่อง มีอัตราการเติบโตที่ดี และทำให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนอีกด้วย 

อย่าลืมติดตามไอเดียและอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ในการทำธุรกิจจากเราได้ที่นี่ หรือติดต่อเราโทร. 02-657-8625 (กด 1) 1162 (กด 1) รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก