4 วิธีลดขยะบรรจุภัณฑ์-ขยะอาหารในธุรกิจ เพิ่มกำไร พร้อมใส่ใจสิ่งแวดล้อม

จากสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคต้องปรับตัว และใช้ชีวิตแบบ Now Normal การเลือกใช้บริการร้านอาหาร ร้านน้ำ ร้านเบเกอรี่ หรือคาเฟ่ครบวงจรสักแห่งหนึ่ง ผู้บริโภคจึงคำนึงถึงเรื่อง Food Safety (ความปลอดภัยทางอาหาร) มาเป็นอันดับแรก แน่นอนว่าผู้ประกอบการเองก็ต้องปรับตัวและให้ความสำคัญกับเรื่องของบรรจุภัณฑ์เพื่อเน้นความสะอาดเป็นพิเศษ เช่น ใช้พลาสติกใสห่อหุ้มจาน ชาม ช้อน ส้อม ก่อนนำไปวางบนโต๊ะอาหาร หรือ ใช้ถุงพลาสติก กล่องพลาสติกจำนวนมากในการบรรจุอาหารสำหรับบริการเดลิเวอรี เป็นต้น จึงทำให้เกิด “ขยะบรรจุภัณฑ์” มหาศาลตามมา ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น หากร้านใดจัดการสต๊อกอาหารไม่ดีพอ ก็ทำให้เกิด “ขยะอาหาร” ตามมาด้วยเช่นกัน

ซึ่งทั้ง 2 ปัญหานี้ส่งผลให้การดำเนินกิจการติดขัด เพราะต้องใช้ต้นทุนสูง แต่ได้กำไรน้อยลง วันนี้ เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ในฐานะมืออาชีพที่เข้าใจธุรกิจ ขอเสนอวิธีสุดเวิร์กในการช่วยผู้ประกอบการจัดการกับ “ขยะบรรจุภัณฑ์” และ “ขยะอาหาร” ช่วยลดต้นทุนได้จริงในระยะยาว เพื่อการดำเนินกิจการอย่างยั่งยืน ทำตามนี้เลย

4 วิธีจัดการกับปัญหา “ขยะบรรจุภัณฑ์” และ “ขยะอาหาร” อย่างมือโปร   

1. นำหลัก “7R” มาใช้ในร้าน  

ควรให้ข้อมูลและอบรมให้พนักงานทุกคนในร้าน ใช้หลัก 7R ในการทำงาน เพื่อการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า ช่วยลดปริมาณขยะให้โลก เป็นการจำกัดต้นทุนในการดำเนินกิจการ และเพิ่มกำไรให้ร้านของพวกเรา หลัก 7R ประกอบไปด้วย  

• Reduce การลดการใช้ทรัพยากรที่ฟุ่มเฟือย ย่อยสลายยาก โดยเฉพาะถุงพลาสติก และกล่องโฟม ค่อย ๆ ลดการใช้สิ่งเหล่านี้ด้วยวิธีง่าย ๆ เช่น การซื้อของเข้าร้านโดยนำถุงไปใส่ของเอง แทนการรับถุงพลาสติกใหม่ในทุก ๆ ครั้ง หรือลดการปริ้นเมนูใหม่เรื่อย ๆ และให้ลูกค้าสแกนเพื่อดูเมนูผ่านทางมือถือแทน 

• Reuse การนำกลับมาใช้ซ้ำ หลีกเลี่ยงการใช้บรรจุภัณฑ์และอุปกรณ์ทุกอย่างในร้านแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ควรนำทุกอย่างมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดก่อนที่จะนำไปทิ้ง เช่น กล่องพลาสติกใส่ของอย่าเพิ่งทิ้ง นำมา DIY เป็น กล่องใส่ทิปส์น่ารัก ๆ ได้ ถุงซิปล็อกสำหรับใส่ผักผลไม้ ก็สามารถนำกลับมาล้างทำความสะอาดและใช้ซ้ำได้ แม้กระทั่งผักชี ต้นหอม ที่ใช้ทำอาหารไม่ได้แล้ว นำไปปักลงในกระถางต้นไม้หลังร้าน เพื่อให้เติบโต และนำกลับมาประกอบอาหารได้อีก   

• Recycle การแยกขยะก่อนทิ้ง แยกขยะที่มีราคา นำกลับไปรีไซเคิลได้ เก็บรวม ๆ กันไว้ขายให้คนรับซื้อ ก็เป็นรายได้เข้าร้านอีกทางหนึ่ง เช่น ขวดน้ำ PET ใสไม่มีสี ถังพลาสติกช็อกโกแลตสเปรด แกลลอนเครื่องปรุงอาหาร และ ถุงพลาสติกบรรจุกาแฟสำเร็จรูป เป็นต้น 

• Replace เปลี่ยนสิ่งของในร้าน ในครัว จากการใช้วัสดุที่ย่อยสลายยาก เป็นวัสดุที่ย่อยสลายเองได้ตามธรรมชาติ  

• Refill เลือกซื้อสินค้าแบบเติม คุ้มค่า ราคาประหยัดกว่าและไม่เพิ่มขยะโดยใช่เหตุ เช่น ซื้อครีมเทียมแบบถุงเติม 

• Repair ซ่อมแซม ของใช้ เฟอร์นิเจอร์ในร้านก่อนทิ้งเป็นขยะ เพราะเมื่อซ่อมแล้วอาจนำกลับมาใช้ได้ ไม่ต้องซื้อใหม่ 

• Return เลือกซื้อสินค้าที่ใช้บรรจุภัณฑ์หมุนเวียน เช่น บรรจุภัณฑ์ขวดแก้ว 

2. เลือกใช้ Eco-Packaging มินิมอล ย่อยสลายง่าย ดีต่อโลก  

ปัจจุบันผู้คนตระหนักและรักษ์โลกกันมากขึ้น ประกอบกับ “กระแสมินิมอล” (ความเรียบง่าย) ที่กำลังเป็นเทรนด์มาแรง สำหรับร้านอาหารที่มีบริการสั่งกลับบ้าน หรือเดลิเวอรี ลองเปลี่ยนจากถุงพลาสติก กล่องพลาสติก ฟอยล์ห่ออาหาร ที่ย่อยสลายได้ยาก มาเป็น บรรจุภัณฑ์ Eco-Packaging ที่ย่อยสลายง่าย ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ ไร้สารปนเปื้อน แถมเดี๋ยวนี้ราคาไม่แพงด้วย เช่น กล่องข้าวจากชานอ้อย ถ้วยชามกระดาษจากใยกล้วย หลอดดูดน้ำจากไม้ไผ่ และถุงกระดาษ เป็นต้น หรือบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เช่นบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากไม้ไผ่ หรือแก้ว เป็นต้น นอกจากช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ให้เป็นร้านที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสามารถดึงดูดใจผู้บริโภคสายกรีนได้อีกด้วยนะ  
 

3. ใช้ของสำเร็จรูปที่มีคุณภาพแทนของสดเสียง่าย  

การสต๊อกของสดไว้มาก ๆ ในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ อาจไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก เพราะของสดมีอายุการใช้งานที่สั้น หากใช้หรือบริหารจัดการสต๊อกไม่ดีพอล่ะก็ อาจทำให้วัตถุดิบเสีย ขาดทุน และเกิดเป็นขยะอาหาร (food waste) ตามมามากมาย  ลองเปลี่ยนวัตุดิบบางอย่างในร้านเป็นวัตถุดิบสำเร็จรูปที่สามารถเก็บไว้ใช้ได้นานแทน แต่ควรเลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ จำหน่ายวัตถุดิบสำเร็จรูปหลากหลาย มีคุณภาพสูง มาในราคาเป็นมิตร และมีบริการส่งตรงให้ผู้ประกอบการอย่าง เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ลองเปลี่ยนจากการใช้ใบชาที่เก็บรักษาอุณหภูมิยาก มาเป็น  เนสที เครื่องดื่มชาผงสำเร็จรูป ที่มีให้เลือกหลากรส เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า เช่น เนสที บราวน์ ชูการ์ และ เนสที รอยัลมิลค์ที เข้มข้นเต็มรสชาแท้ หรือ เนสที องุ่นเคียวโฮ และ เนสที เลมอน ชาผลไม้ สดชื่นถึงใจ หรือเมนูน้ำผลไม้คั้น ลองเปลี่ยนจากการสต๊อกผลไม้สดที่เสียง่าย มาใช้น้ำผลไม้สำเร็จรูป เช่น เนสท์เล่ ฟรุตไทม์ รสส้ม เนสท์เล่ ฟรุตไทม์ บ๊วยน้ำผึ้ง  และ เนสท์เล่ ฟรุตไทม์ เลมอนเนด เป็นต้น  

4. ลด “ขยะอาหาร” ในร้าน จัดการสต๊อกให้เป็น ได้เห็นกำไร  

ควรสอนให้พนักงานเข้าใจเรื่องการจัดเก็บวัตถุดิบในร้านอาหารแบบ First In, First Out (FIFO) “มาก่อน ใช้ก่อน” อธิบายง่าย ๆ ก็คือ ถ้าวัตถุดิบใดมาส่งก่อน ก็หยิบใช้ก่อน เพื่อการบริหารจัดการสต๊อกที่เป็นระบบ ลดการเกิดขยะในร้านอาหาร และคงความสดใหม่ของวัตถุดิบไว้ให้ได้มากที่สุด โดยให้พนักงานบริหารสต๊อกอย่างเป็นระบบด้วยการแปะฉลากวัน เดือน ปี หรือสแกนเข้าระบบคอมพิวเตอร์ก็ได้ นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังสามารถลด “ขยะอาหาร” ภายในร้านได้ง่าย ๆ เพื่อลดต้นทุนในระยะยาวด้วยวิธีดังนี้  

• อบรมพนักงานให้อ่านฉลากสินค้าให้เป็น โดยเฉพาะฉลาก “ควรบริโภคก่อน” (BBE) ที่หมายถึง วันที่บ่งบอกว่าอาหารนั้นจะมีคุณภาพ และรสชาติที่เหมือนเดิมไปจนถึงวันที่ระบุไว้ แต่หลังจากนั้นคุณภาพดังกล่าวจะลดลง แต่ยังสามารถบริโภคได้ ไม่มีอันตราย ไม่เหมือนกับฉลาก “วันหมดอายุ” (EXP) ดังนั้นวัตถุดิบที่เลยวัน “ควรบริโภคก่อน” ไปแล้ว อย่าเพิ่งทิ้ง ให้พิจารณาคุณภาพของสินค้าด้วยการ มอง ดม และชิม ก่อน เพื่อไม่ให้เกิด อาหารขยะ  
  (Food Waste) โดยใช่เหตุ  

• ใช้บริการซัพพลายเออร์ ส่งของเป็นระบบ งบวัตถุดิบไม่บานปลาย เคยไหม? ไปซื้อของที่ตลาดทุกเช้า ตุนวัตถุดิบจนใช้ไม่ทัน แต่ของบางอย่างก็ยังขาดระหว่างวันอยู่ดี นั่นเป็นเพราะเช็กสต๊อกไม่ละเอียดพอ ลองเปลี่ยนมาเลือกใช้บริการซัพพลายเออร์ ที่น่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ เชี่ยวชาญในการดูแลและให้คำปรึกษาได้ดีอย่าง เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ที่มีวัตุดิบให้เลือกมากมายตอบโจทย์หลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบสำหรับร้านอาหาร ร้านน้ำ หรือร้านเบเกอรี่ เพิ่มความสะดวกสบายด้วยบริการสั่งของออนไลน์ ส่งตรงถึงหน้าร้าน ชำระเงินแบบไร้สัมผัส (Cashless Payment) พร้อมมีโปรโมชันดีดีมามอบให้ผู้ประกอบการทุกเดือนอีกด้วย    

• เคลียร์สต๊อกวัตถุดิบ ด้วยเมนูโปรโมชันประจำสัปดาห์ ลูกค้าไหลมาเทมา เลือกหนึ่งวันในสัปดาห์ เป็นวันเคลียร์สต๊อกของทางร้าน จัดทำ “เมนูโปรโมชันประจำสัปดาห์” โดยให้เชฟรังสรรค์เมนูพิเศษจากวัตถุดิบที่ต้องการจัดการสต๊อก มาเสนอขายในราคาพิเศษให้กับลูกค้า นอกจากความคุ้มค่าที่ลูกค้าจะได้รับแล้ว ยังสร้างความตื่นตาตื่นใจ ความแปลกใหม่ให้กับลูกค้าได้ด้วย ศึกษาไอเดียสร้างสรรค์เมนูสุดเจ๋ง ดึงดูดใจลูกค้าได้จริง ที่นี่ และอย่าลืมว่า วัตถุดิบหนึ่งชนิดควรรังสรรค์อาหารได้มากกว่าหนึ่งจาน ก็เป็นการลดปริมาณขยะอาหารในร้านได้ อีกทั้งการใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล ย่อมมีต้นทุนที่ต่ำ แต่ได้คุณภาพ ความสดของวัตถุดิบที่สูง และเพิ่มความดึงดูดใจให้ลูกค้าได้ดีทีเดียว อ่านกลยุทธ์ลดต้นทุนอย่างมืออาชีพ ช่วยเพิ่มกำไรให้ร้าน คลิก    

บอกเลยว่าเคล็ดลับที่เรานำมาฝากกัน เป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่าย ๆ นอกจากช่วยลดปัญหาขยะบรรจุภัณฑ์และขยะอาหารได้จริงแล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการให้แก่ผู้ประกอบการในระยะยาวได้ดีอีกด้วย  นอกจากนี้บริษัทเนสท์เล่เอง ก็ยังให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว และได้จัดตั้งสถาบันคิดค้นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถนำกลับมา 
รีไซเคิลได้ 100% คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2025 ที่จะถึงนี้ เพื่อช่วยผู้ประกอบการลดปัญหาขยะบรรจุภัณฑ์ในร้าน และขอเป็นอีกหนึ่งแรงที่ช่วยลดปัญหาขยะ และบรรเทาปัญหาโลกร้อนด้วย อย่าลืมติดตามไอเดียและอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ในการทำธุรกิจจากเราได้ที่นี่ หรือติดต่อเราโทร. 02-657-8625 (กด 1) 1162 (กด 1) รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก