
- เทรนด์ และไอเดียธุรกิจ
- อัปเดตเทรนด์ธุรกิจ
5 กลยุทธ์วิธีเพิ่มยอดขายร้านอาหาร สู้ศึกเศรษฐกิจถดถอย!
ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ระมัดระวังในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มมนุษย์เงินเดือน ซึ่งนำมาสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารตามไปด้วย เช่น จากที่เคยซื้ออาหารทานเองทุกมื้อ ก็เปลี่ยนมาลงมือทำกับข้าวพกไปที่ทำงานเอง ซึ่งปัจจัยนี้ส่งผลกระทบให้ร้านอาหารตามสั่งหลายแห่งที่เคยขายดีทุกวัน เริ่มรู้สึกถึงยอดขายที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะร้านตามสั่งที่อยู่ในตึกสำนักงานหรือแม้แต่ร้านสตรีทฟู้ดย่านดังต่าง ๆ
วันนี้ เนสท์เล่ โปรเฟชชันนัล จะช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ และแนะนำกลยุทธ์เด็ดแบบ B2E (Business to Employee) เพื่อการเพิ่มยอดขายร้านอาหารให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง แค่ลองนำกลยุทธ์เหล่านี้ไปปรับใช้ รับรองว่าร้านตามสั่งของคุณจะยังคงเป็น No.1 ในการรักษาฐานลูกค้าให้เข้าร้านได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย!
5 กลยุทธ์การเพิ่มยอดขายร้านอาหารให้คึกคัก
1. สร้างความเปลี่ยนแปลง จากความอยากกินเป็น “ต้องกิน”
การตลาดร้านอาหารวิธีนี้คือ การพลิกจาก “ทางเลือก” ไปสู่การเป็น “ส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน” ของลูกค้า ก่อนอื่นผู้ประกอบการต้องเข้าใจก่อนว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่ “ซื้อกินตามใจ” เช่น อยากลองเมนูใหม่ อยากกินเมนูแปลก ๆ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่แน่นอน และอาจไม่เกิดการซื้อซ้ำ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสเทรนด์การบริโภค
แต่ในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคือง สิ่งที่สังเกตได้คือ ลูกค้าเริ่มมีพฤติกรรมที่ “ใช้จ่ายอย่างมีสติ” กลายเป็น “กินตามงบที่ตั้งใจไว้” ลูกค้าจึงมักจะเลือกร้านที่ไว้ใจได้ในเรื่องรสชาติ ราคาไม่แรง กินแล้วอิ่มคุ้มค่า เคล็ดลับวิธีเพิ่มยอดขายคือ หากร้านตามสั่งร้านไหนที่สามารถตอบโจทย์ได้ครบ ลูกค้าจะเริ่มรู้สึกว่า “ไม่ต้องคิดมาก ก็สั่งร้านนี้เหมือนเดิม” กลายเป็นพฤติกรรม “ต้องกิน” คือ ต้องมีข้าวร้านนี้ในชีวิตประจำวัน เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เช่น กาแฟเจ้าประจำ ตามสั่งร้านประจำ หรือแม้แต่การแวะซื้อข้าวร้านประจำกลับไปเป็นมื้อเย็นที่บ้าน
2. รสชาติต้องคงที่เพื่อ “สร้างความมั่นใจ”
แน่นอนว่าเรื่องของรสชาติยังคงสำคัญสำหรับการทำอาหารตามสั่ง แต่ในภาวะที่เงินในกระเป๋ามีจำกัด ลูกค้าไม่ได้มองหาแค่ของอร่อย แต่ต้องเป็นของที่กินแล้ว “วางใจได้” เช่น รสชาติสม่ำเสมอ ราคาไม่แกว่ง มีบรรจุภัณฑ์สะอาด มีป้ายชัดเจนว่าไม่ใส่ผงชูรส หรือเลือกใช้วัตถุดิบปลอดภัย เป็นต้น
เพราะร้านที่ให้ความมั่นใจได้ว่าอาหารทุกจานจะรสชาติเหมือนเดิมทุกวัน จะได้เปรียบกว่าร้านที่รสชาติเปลี่ยนไปทุกครั้งที่ลูกค้าซื้อ ดังนั้นการทำให้ร้านของคุณดูมีมาตรฐาน คือจุดแข็งของการทำการตลาดร้านอาหาร และเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือ พร้อมดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำได้
เคล็ดลับที่จะช่วยให้ร้านอาหารตามสั่งควบคุมรสชาติให้คงที่ และมั่นใจได้ในทุกจาน คือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จาก “แม็กกี้ โปรเฟสชันนัล” ซึ่งคิดมาเพื่อผู้ประกอบการโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเมนูผัด หมัก ย่าง ทอด หรือจะเพิ่มรสชาติในน้ำซุป ผลิตภัณฑ์ของแม็กกี้ก็มีหลากหลายประเภท และพร้อมมอบความเข้มข้น กลมกล่อม ช่วยให้ร้านตามสั่งสามารถรักษามาตรฐานรสชาติได้สม่ำเสมอในทุกวัน ให้ผู้ประกอบการมั่นใจในรสชาติ และกลับลูกค้ามาซื้อซ้ำได้ง่ายขึ้น
ใหม่! สูตรสำหรับร้านอาหารจาก เชฟขวัญ x แม็กกี้
แจกเมนูตามสั่งสร้างกำไร
ผัดซีอิ๊วราดเส้นเล็กกรอบ
เคล็ดลับความอร่อยสไตล์เชฟขวัญ
ใช้น้ำมันใหม่ในการทอดเส้นเล็ก เพื่อให้ได้ความกรอบ และได้สีสันน่ารับประทาน
เมนูซิกเนเจอร์ที่ผสมผสานความกรอบของเส้นเล็กกับรสชาติกลมกล่อมของผัดซีอิ๊ว ที่ได้ความหอมอร่อย เข้มข้นจากแม็กกี้ซอสปรุงอาหาร สูตรผัดกลมกล่อม และแม็กกี้ซอสหอยนางรม สูตรเชฟมืออาชีพ พร้อมเสริมรสชาติให้เป็นเอกลักษณ์ด้วยแม็กกี้เชฟซีเคร็ท ผงปรุงรส
รวมเห็ดกรอบคั่วพริกเกลือ
เคล็ดลับความอร่อยสไตล์เชฟขวัญ
ในขั้นตอนการเตรียมเห็ด ควรบีบน้ำออกจากเห็ดให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เห็ดกรอบนานขึ้น
อีกหนึ่งเมนูเด็ดจากเชฟขวัญที่ใช้ต้นทุนเพียง 30 บาท ก็สามารถสร้างเมนูประจำร้านอร่อยแบบไม่มีใครซ้ำ ด้วยรสชาติกลมกล่อมเผ็ดกำลังดี เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับร้านอาหารที่อยากจะสร้างสรรค์เมนูจัดจ้าน และต้องการเพิ่มความพิเศษให้กับวัตถุดิบในรูปแบบใหม่ ๆ
3. สร้างความรู้สึกให้ลูกค้าจ่ายแล้วคุ้มค่า
เมื่อลูกค้าต้องกินทุกวัน ความคุ้มค่ามักจะเป็นสิ่งที่ใช้ตัดสินใจ ดังนั้นการเพิ่มยอดขายร้านอาหาร ไม่จำเป็นต้องขายถูกที่สุด แต่ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า “จ่ายแล้วคุ้ม” เช่น ให้น้ำซุปฟรี แถมไข่ดาวเมื่อซื้อครบ 60 บาท หรือจัดเซ็ตอาหารพร้อมเครื่องดื่มในราคา 60 บาทต่อมื้อ เป็นต้น
ลองคิดง่าย ๆ ถ้าลูกค้ากินร้านคุณ 20 วันต่อเดือน คุณต้องทำให้ทุกมื้อของเขารู้สึกดี ทั้งในแง่ความอร่อย และความสบายใจด้านการเงิน ดังนั้นการจัดเมนูตามสั่งที่อิ่มง่าย ราคาดี เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความผูกพันระหว่างลูกค้าและร้านได้ในระยะยาว
4. ขายให้กลุ่ม “ต้องกิน” ด้วยโมเดล B2E
นอกจากการขายอาหารให้ลูกค้าขาจรแล้ว ลองมองหาวิธีเพิ่มยอดขายที่จะทำให้ร้านของคุณเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของพนักงานออฟฟิศให้ได้ เราขอแนะนำกลยุทธ์ B2E หรือ “Business to Employee” แนวทางที่ช่วยให้ร้านของคุณสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ากลุ่มพนักงานออฟฟิศได้โดยตรง ตัวอย่างเช่น
- การจัดเซ็ตข้าวเย็นแบบพร้อมซื้อกลับบ้านหลังเลิกงาน เช่น “ข้าว + กับข้าว 2 อย่าง + น้ำผลไม้” ในราคาสุดคุ้ม
- การร่วมมือกับออฟฟิศหรือคอนโดใกล้เคียง ทำโปรฯ สำหรับลูกค้าที่สั่งประจำ
เพราะการเข้าถึงกลุ่มพนักงานด้วยวิธีนี้จะช่วยสร้างยอดขายที่สม่ำเสมอ และช่วยลดความไม่แน่นอนจากการต้องพึ่งพาลูกค้าขาจรเพียงอย่างเดียว
5. กลยุทธ์ Pre-Order ลดต้นทุน เพิ่มกำไร
หนึ่งในแนวทางที่ควรทำควบคู่ไปกับกลยุทธ์ B2E คือการรับออเดอร์ล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมื้อเช้าและมื้อเที่ยง ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่มักจะมีเมนูในใจหรือเมนูที่กินเป็นประจำอยู่แล้ว โดยร้านสามารถให้ลูกค้าเลือกเมนูล่วงหน้าผ่าน LINE หรือ QR Code โดยมีเมนูตามสั่งให้เลือก พร้อมมอบส่วนลดเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อมีการสั่งอาหารล่วงหน้า หรือมีของแถมให้ฟรี เมื่อสั่งภายในเวลาที่กำหนด
กลยุทธ์นี้จะช่วยให้ร้านตามสั่งสามารถบริหารต้นทุน และวัตถุดิบที่ต้องใช้ในแต่ละวันได้อย่างพอดี ช่วยให้ทุนไม่จม ไม่มีวัตถุดิบเหลือทิ้ง ทำให้ในแต่ละวันร้านตามสั่งสามารถซื้อวัตถุดิบสดใหม่มาใช้ในการทำอาหารขายได้ นอกจากนี้ลูกค้าเองก็ยังได้รับอาหารตรงเวลา เป็นการบริหารทั้งต้นทุน และเวลาที่คุ้มค่าในเวลาเดียวกัน
ไอเดียการสร้างโปรโมชั่นเด็ด
- จองกาแฟภายใน 8:30 น. ลด 10%
- ซื้อเซ็ตข้าวกล่อง 5 วัน รับฟรีอีก 1 วัน
- สั่งครบ 10 กล่อง ส่งฟรีถึงออฟฟิศ
- จัดเซ็ตประหยัดกลับบ้าน แถมน้ำสมุนไพร ฟรี!
- สะสมแต้มผ่าน LINE ทุกการซื้อ ครบ 10 ครั้ง แถม 1 ครั้ง
นอกเหนือจากเรื่องรสชาติ ราคา และความคุ้มค่าแล้ว การสร้างภาพจำให้ร้านของคุณ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทุกร้านดูคล้ายกันหมด คือสิ่งที่จะทำให้ร้านตามสั่งของคุณโดดเด่น และดึงดูดลูกค้าได้ง่าย ๆ ตัวอย่างเช่น การลองตั้งชื่อเมนูครีเอทีฟสนุก ๆ ให้ดูน่าสนใจอย่าง “ข้าวหน้าไข่ข้นคนขยัน”, “กะเพราไฟลุก เดือดกว่างาน” หรือ “บะหมี่หมดไฟ แต่ใจยังไปต่อ” ก็เป็นอีกหนึ่งกิมมิกน่ารัก ๆ ที่นำเอา Insight โดน ๆ ของมนุษย์ออฟฟิศมาเล่นคำ เพื่อสร้างความแตกต่าง และสร้าง Word-of-Mouth ให้ร้านของคุณได้ในวงกว้าง
นอกจากนี้การแสดงถึงความใส่ใจอย่าง การเขียนโน๊ตข้อความน่ารัก ๆ แนบไปด้วย เช่น “วันนี้สู้ ๆ อีกวันนะ” หรือ “หิวเมื่อไหร่ ก็แวะมาเติมแรงได้เสมอ” สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้ก็เป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจที่ร้านมีต่อลูกค้า และเป็นการส่งต่อพลังบวก ให้ลูกค้าประทับใจจนอยากกลับมาซื้อซ้ำอีกครั้ง
สรุป! ร้านตามสั่งที่อยู่รอด = ร้านที่เข้าใจลูกค้า
เรียกได้ว่าการที่ร้านอาหารตามสั่งหรือธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจะอยู่รอดและเติบโตในช่วงเศรษฐกิจไม่แน่นอนได้นั้น ไม่ใช่แค่การแข่งกันหั่นราคา แต่เป็นการเข้าใจลูกค้าให้ลึกขึ้น ว่าเขาต้องการอะไร ใช้ชีวิตแบบไหน แล้วหาวิธีเพิ่มยอดขายร้านอาหารที่เหมาะกับชีวิตประจำวันของลูกค้าให้มากที่สุด เพื่อให้ร้านของคุณกลายเป็นร้านอาหารตามสั่งที่รู้ใจ และโดนใจจนลูกค้าขาดไม่ได้นั่นเอง
หากคุณคือเจ้าของร้านตามสั่งที่สนใจอยากใช้ผลิตภัณฑ์จากแม็กกี้
หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จาก เนสท์เล่ โปรเฟสชันนัล
พร้อมคำแนะนำในการต่อยอดร้านอาหารตามสั่งของตัวเอง
สามารถติดต่อเนสท์เล่ โปรเฟสชันนัลเพื่อรับคำปรึกษาได้เลยวันนี้