
- เทรนด์ และไอเดียธุรกิจ
- อัปเดตเทรนด์ธุรกิจ
อยากเปิดร้านกาแฟ เปิดคาเฟ่ ให้ได้กำไร คืนทุนไว มือใหม่ต้องรู้
ธุรกิจในฝันของใครหลาย ๆ คน คงเป็น การ “เปิดร้านกาแฟ” แต่จะดีแค่ไหนถ้าความฝันนั้นสร้างความมั่นคงและรายได้
เป็นกอบเป็นกำให้เราได้ด้วย วันนี้ เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ในฐานะมืออาชีพที่เข้าใจและอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการที่เปิดร้านกาแฟและเปิดคาเฟ่อยู่เสมอ ได้รวบรวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการ ลงทุนเปิดร้านกาแฟอย่างไรให้รอด ลูกค้าติดใจ คืนทุนเร็ว สร้างโอกาสทำกำไรในระยะยาว มาฝากกัน
1. การลงทุนและงบประมาณ
ในการทำธุรกิจ “เงิน” ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด สำหรับการเริ่มต้นเปิดร้านกาแฟหรือเปิดคาเฟ่ ดังนั้นก่อนเริ่มทำธุรกิจเราต้องมีเงินลงทุน มีการวางแผนการเงิน โดยตั้งงบก่อนว่าเรามีเงินทุนเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้สามารถกำหนดขอบเขตและขนาดธุรกิจของเรา รวมไปถึงรูปแบบร้าน การตกแต่ง อุปกรณ์และวัตถุดิบที่จะใช้ในร้านของเรา โดยเงินลงทุนนั้นควรเป็นเงินเก็บหรือเงินที่จะไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเรา และควรจัดสรรเงินทุนสำรองไว้ดูแลธุรกิจในช่วงแรกเผื่อมีเหตุการณ์ผิดพลาดบางอย่างเกิดขึ้น เพื่อธุรกิจจะได้ดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น โดยก่อนลงทุนเปิดร้านกาแฟหรือเปิดคาเฟ่ ผู้ประกอบการต้องไม่ลืมที่จะวิเคราะห์และพิจารณาถึงสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้
1. รู้จักกลุ่มเป้าหมาย และวิเคราะห์คู่แข่งให้เป็น
ก่อนเปิดร้านกาแฟ หรือ เปิดคาเฟ่ ควรสำรวจตลาดก่อนว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคและใช้บริการร้านกาแฟขณะนี้เป็นอย่างไร และกำหนดกลุ่มลูกค้าร้านของเราให้ชัดเจนว่าจะขายให้ใคร เช่น กลุ่มนักเรียน นักศึกษา กลุ่มพนักงานออฟฟิศ เป็นต้น เมื่อได้กลุ่มเป้าหมายแล้ว ต้องวิเคราะห์ลงลึกไปถึงพฤติกรรม ความต้องการและความชอบของคนกลุ่มนั้น อีกทั้งต้องวิเคราะห์ร้านคู่แข่งและหาจุดเด่นของร้านตัวเอง เพื่อดึงดูดใจให้ลูกค้าเลือกใช้บริการร้านของเรามากกว่า
2. เลือกทำเลและที่ตั้งให้เหมาะสม
การเลือกทำเลที่ใช่นั้นมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะยิ่งร้านของเราตั้งอยู่ใกล้กลุ่มเป้าหมายมากเท่าไหร่ ก็จะช่วยดึงดูดใจให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่ร้านของเราได้มากเท่านั้น ทั้งนี้ยังช่วยให้ร้านคืนทุนได้ไว เพิ่มโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น และหากทางร้านมีพื้นที่จอดรถไว้ให้บริการลูกค้าด้วย ก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ดึงดูดใจให้ลูกค้าอยากเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นด้วย
3. การตกแต่งร้านที่เป็นเอกลักษณ์
ยุคนี้การเปิดร้านกาแฟ มักจะเฉือนกันที่สไตล์การตกแต่งร้าน ผู้ประกอบการต้องหาจุดเด่นและเอกลักษณ์ของร้านเราให้เจอ พร้อมออกแบบ ตกแต่งให้ร้านของเราโดดเด่นและแตกต่างจากร้านอื่น เมื่อคอกาแฟเข้าไปใช้บริการและได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศ พวกเขาอาจถ่ายรูปอัปโหลดลงโซเชียลและรีวิวร้านของเรา ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เข้ามาใช้บริการเพิ่มได้ด้วย
4. มีความรู้เรื่องกาแฟ
ผู้ประกอบการและพนักงานในร้านจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเมล็ดกาแฟ การชง การใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ วัตถุดิบในร้าน รวมถึงเมนูกาแฟและเครื่องดื่มต่าง ๆ ในร้านเป็นอย่างดี เพื่อที่จะได้แนะนำและให้ข้อมูลกับลูกค้าได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่มาเยือนได้
5. สร้างจุดต่าง นำเสนอเมนูแปลกใหม่
ลองคิดค้นเมนูที่เป็นจุดขายเฉพาะร้านของเรา เช่น เมนูซิกเนเจอร์ เพื่อแนะนำให้กับลูกค้า หรือหมั่นสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับลูกค้าด้วยเมนูใหม่ ๆ ที่มีขายเฉพาะช่วงฤดูกาลนั้น ๆ เช่น เมนูเครื่องดื่มที่มาจากผลไม้ตามฤดูกาลอย่าง ดัลโกน่าคอฟฟี่มะพร้าว หรือเมนูเครื่องดื่มประจำเทศกาลวาเลนไทน์อย่าง เนสท์เล่ไมโลลาเต้ เพราะการนำเสนอความแปลกใหม่จะช่วยสร้างความตื่นเต้น และสร้างการจดจำได้ดี
2. การ “เปิดร้านกาแฟ-เปิดคาเฟ่” สำหรับมือใหม่ เลือกขนาดของธุรกิจแบบไหนดี
สำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นลงทุนเปิดร้านกาแฟ หรือ เปิดคาเฟ่ แน่นอนว่านอกจากควรพิจารณาจากเงินลงทุนเป็นหลักแล้ว อีกข้อสำคัญที่ผู้ประกอบการมือใหม่ควรคำนึงถึงนั่นคือ ‘ทำเลที่ตั้ง’ (Location) ว่าเรามีขนาดของพื้นที่มากน้อยขนาดไหน รวมถึงพื้นที่ของเราเป็นทำเลที่ติดกับย่านใด เช่น ติดกับตลาด ออฟฟิศ สถานที่ราชการ หรือมหาวิทยาลัย เป็นต้น การวิเคราะห์ทำเลที่ตั้งก่อนนั้น จะทำให้ผู้ประกอบการมือใหม่ตัดสินใจเลือก ‘ขนาดของธุรกิจ’ ได้ง่ายขึ้นว่าพื้นที่ที่เรามีเหมาะกับการตั้ง
ร้านกาแฟขนาดเล็ก ร้านกาแฟขนาดกลาง หรือ ร้านกาแฟขนาดใหญ่ โดยการเปิดร้านกาแฟแต่ละขนาดนั้นก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. ร้านกาแฟขนาดเล็ก
เหมาะกับมือใหม่ที่อยากเปิดร้านกาแฟ แบบไม่ยุ่งยาก ใช้ต้นทุนไม่สูง และง่ายต่อการบริหารจัดการที่สุด เพราะเราสามารถควบคุมคุณภาพของเครื่องดื่มและมาตรฐานการให้บริการได้ด้วยตัวเองอย่างครอบคลุม แนะนำเลือกเป็นร้านกาแฟแบบสั่งกลับบ้าน หรือมีพื้นที่ข้างร้านไว้นั่งดื่มกาแฟเพียงไม่กี่ที่นั่ง เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการ แนะนำโมเดลธุรกิจร้านกาแฟแบบ One-Stop Business Solution จาก Café Nescafé ที่มีร้านกาแฟสดขนาดเล็ก “ร้านกาแฟเนสกาแฟ Model The Counter” เหมาะสำหรับเปิดในตึกอาคารสำนักงาน ศูนย์ราชการ โรงพยาบาล หรือศูนย์การค้า โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 1.8 - 2.7 ล้านบาทเท่านั้น
2. ร้านกาแฟขนาดกลาง
เหมาะกับคนที่ต้องการเปิดร้านกาแฟ ที่มีพื้นที่ของร้านกาแฟที่กว้างขึ้น นอกจากเคาท์เตอร์จำหน่ายเครื่องดื่มแล้ว ยังมีพื้นที่นั่งดื่มกาแฟเล็ก ๆ สำหรับไว้บริการลูกค้าที่อยากนั่งดื่มกาแฟในร้าน ทำให้ผู้ประกอบการต้องเพิ่มการจ้างพนักงาน 1-2 คน เพื่อคอยให้บริการลูกค้าทั้งชงเครื่องดื่ม เสิร์ฟ คิดเงิน และดูแลเรื่องความสะอาดภายในร้าน แต่เพื่อความราบรื่นแนะนำโมเดลธุรกิจร้านกาแฟสดขนาดกลางจาก Café Nescafé “ร้านกาแฟเนสกาแฟ Model Fit in Space” เหมาะสำหรับเปิดเป็นร้านกาแฟในอาคารพาณิชย์ โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 3 - 4 ล้านบาท
3. ร้านกาแฟขนาดใหญ่
เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับเปิดร้านกาแฟ แบบครบวงจร เพื่อตอบโจทย์
คอกาแฟที่ต้องการนั่งพักผ่อน ดื่มกาแฟชิล ๆ ซึ่ง Café Nescafé ก็มีโมเดลธุรกิจร้านกาแฟสดขนาดใหญ่
“ร้านกาแฟเนสกาแฟ Model The Stand Alone” ไว้เสนอแก่ผู้ประกอบการมือใหม่ สามารถออกแบบให้เข้ากับขนาดพื้นที่ของเราได้อย่างเหมาะสม โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 4.4 ล้านบาทขึ้นไป แล้วแต่ขนาดพื้นที่
กการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ดังนั้นสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ที่อยากเปิดร้านกาแฟ หรือ อยากเปิดคาเฟ่เป็นของตัวเอง แต่ยังไม่มีประสบการณ์มากพอและไม่อยากแบกรับความเสี่ยง สามารถศึกษาวิธีการลดต้นทุนร้านกาแฟและไอเดียการเพิ่มยอดขายให้ร้านกาแฟ เพื่อก้าวแรกในการทำธุรกิจให้ดำเนินไปอย่างราบรื่น คืนทุนไว มั่นคง และได้กำไรระยะยาว แนะนำมองหาธุรกิจแฟรนไชส์ที่น่าเชื่อถือ และมีประสบการณ์เรื่องธุรกิจร้านกาแฟมายาวนาน อย่าง Café Nescafé ที่ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญและมีทีมงานมืออาชีพคอยดูแลให้คำปรึกษาผู้ประกอบการอย่างเข้าใจ มีให้เลือกถึง 3 โมเดลธุรกิจ มาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน วัตถุดิบคุณภาพดี และบริการอื่น ๆ ครบวงจร ที่จะช่วยมอบความสะดวกสบายและแบ่งเบาภาระการจัดการให้แก่ผู้ประกอบการมือใหม่ได้ดี ไม่ว่าจะเป็น …
-
เครื่องกาแฟ Made in Italy พร้อมเครื่องบด
-
อุปกรณ์การชงครบครัน อย่างมืออาชีพ
-
ทีมช่าง (Technician Support) ทั่วประเทศ ไว้คอยให้คำแนะนำ และเข้าซ่อมบำรุงได้อย่างรวดเร็ว
-
ไม่มีการเก็บค่า GP รายเดือนจากยอดขาย ซึ่งต่างจากแฟรนไชส์ทั่วไป
-
ค่าธรรมเนียมรายปีเพียง 55,000 บาท (สัญญา 3 ปี)
-
สอนการใช้อุปกรณ์และการชงเมนูเครื่องดื่มโดยบาริสต้ามืออาชีพ
-
รวมหลักสูตรบริหารจัดการร้าน การบริหารสต๊อกให้ได้กำไร แนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ
-
มีเมนูหลากหลายตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย มีเมนูใหม่ ๆ ทุก ๆ 3 เดือน พร้อมเมนูซิกเนเจอร์ที่ไม่เหมือนร้านไหนแน่นอน
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถาม หรือขอคำปรึกษา ได้ที่ 02-657-8625 (กด 1) 1162 (กด 1) หรือ คลิก และสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับ Café Nescafé เคล็ดลับในการเปิดร้านกาแฟ พร้อมอัปเดตเมนูกาแฟตามเทรนด์ที่น่าสนใจได้ที่นี่