แชร์ทริค! ปั้นธุรกิจกาแฟสด เริ่มจาก 0 ก็ทำธุรกิจคาเฟ่เปิดใหม่ได้จริง

ในยุคที่คนไทยนิยมดื่มกาแฟสด และใส่ใจในคุณภาพของเครื่องดื่มมากขึ้นทุกวัน ทำให้การเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมของผู้ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงที่เทรนด์ คาเฟ่เปิดใหม่ และการใช้ชีวิตนอกบ้านยังคงเติบโตต่อเนื่อง ไม่ว่าจะมีพื้นที่แค่หน้าบ้าน หรือต้องการเริ่มต้นแบบร้านกาแฟรถเข็นงบไม่สูง คนที่อยากทำธุรกิจก็สามารถสร้างรายได้จากเมนูง่าย ๆ ได้จริง

หากคุณเคยมีคำถามว่า…

  • “อยากเปิดร้านกาแฟ เริ่มยังไง?”
  • “เปิดร้านกาแฟลงทุนเท่าไหร่?”
  • หรือ “จะคิดสูตรกาแฟยังไงให้ถูกปากคนไทย?”

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 2 โมเดลธุรกิจใหม่จาก Café Alliance Program by NESCAFÉ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเริ่มต้นทำธุรกิจกาแฟสดได้แบบมืออาชีพ แม้ไม่มีประสบการณ์ พร้อมสูตรลับ อุปกรณ์ครบ และระบบสนับสนุนเต็มรูปแบบจาก เนสท์เล่ โปรเฟสชันนัล ที่ให้คุณเปิดร้านได้จริง มีลูกค้าประจำ และเติบโตได้ในระยะยาว

ก่อนจะไปดูรายละเอียดของทั้ง 2 โมเดลธุรกิจ ลองมาสำรวจเทรนด์ในตอนนี้กันก่อนว่า ทำไมธุรกิจกาแฟถึงยังคงน่าสนใจ และยังน่าลงทุนในปีนี้

ปัจจัยที่ทำให้ “ธุรกิจกาแฟสด” น่าสนใจในตอนนี้

  • ตลาดกาแฟในไทยมีมูลค่ามากกว่า 60,000 ล้านบาทต่อปี และยังคงเติบโตต่อเนื่อง 
    (อ้างอิงข้อมูลจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
  • คนส่วนมากนิยมดื่มกาแฟวันละหลายแก้ว โดยเฉพาะในช่วงเช้าก่อนเข้างาน และช่วงบ่ายเพื่อกระตุ้นพลังงานระหว่างวัน
  • เทรนด์ Work from Café, Café Hopping และความนิยมใน Specialty Coffee ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจกาแฟเติบโตสวนทางภาพรวมเศรษฐกิจ 
    (อ้างอิงข้อมูลจาก Forbes Thailand)
  • เมนูกาแฟและเครื่องดื่มต่าง ๆ สามารถตั้งราคาขายได้ดี (45–80 บาท/แก้ว)

ปัจจุบันคนที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ สามารถเริ่มต้นได้ง่ายกว่า แม้มีงบน้อยก็เปิดร้านได้ ทั้งแบบ Cloud Kitchen และแบบมีหน้าร้านเป็นของตัวเอง

คำถามยอดฮิตที่ต้องรู้ก่อนลงทุนร้านกาแฟ

หลายคนที่สนใจอยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง มักจะมีคำถามที่ค้างคาใจว่า ต้องใช้งบเท่าไหร่?, ต้องมีประสบการณ์ไหม?, หรือแม้แต่ จะขายได้จริงหรือเปล่า? ซึ่งความจริงคือ การเริ่มต้นธุรกิจกาแฟสดในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องใช้ทุนสูงเสมอไป เพราะมีโมเดลร้านกาแฟที่เป็น Coffee Solution ให้เลือกหลากหลายแบบ ตั้งแต่ร้านเล็ก ๆ แบบรถเข็นไปจนถึงร้านคาเฟ่เต็มรูปแบบ โดยงบลงทุนเริ่มต้นเพียงหลักแสนต้น ๆ ก็สามารถมีร้านเป็นของตัวเองได้แล้ว ที่สำคัญคือไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์มาก่อน เพราะพาร์ทเนอร์บางแห่งมีให้บริการเทรนนิ่ง ตั้งแต่การชง การจัดร้าน ไปจนถึงการบริหารต้นทุนและสร้างกำไร 

ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ ทำเลอย่าง “ตลาดนัด” หรือ “หน้าออฟฟิศ” ก็สามารถสร้างยอดขายได้ดีไม่แพ้ร้านในห้าง หากเลือกโมเดลธุรกิจที่เหมาะกับพื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย ก็จะทำให้การเริ่มต้นจากศูนย์ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

ลงทะเบียนรับคำปรึกษา

ขอแนะนำ 2 โมเดลธุรกิจใหม่ล่าสุดจาก NESCAFÉ

เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่อยากเปิดคาเฟ่หรือเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ หน้าบ้าน หรือแม้แต่เจ้าของธุรกิจที่ต้องการต่อยอดรายได้ NESCAFÉ ได้พัฒนา 2 โมเดลธุรกิจล่าสุดในโปรแกรม Café Alliance ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับทั้งมือใหม่ที่ไม่มีพื้นฐานแต่อยากเปิดร้านกาแฟรถเข็น และผู้ที่มีหน้าร้านอยู่แล้วแต่อยากเพิ่มในส่วนของการขายกาแฟเพิ่มเติม โดยเน้นความง่ายในการเริ่มต้น ใช้งบน้อย แต่มีระบบสนับสนุนครบครัน ตั้งแต่การฝึกอบรม การให้สูตรกาแฟ ไปจนถึงอุปกรณ์แบบพร้อมเปิดร้านได้จริง

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ลองมาดูตารางเปรียบเทียบระหว่างโมเดล R&G Kiosk และ Café Partner กันดีกว่าว่าแบบไหนที่จะเหมาะสมกับสิ่งที่คุณมองหามากที่สุด

เปรียบเทียบ 2 โมเดลใหม่จาก NESCAFÉ

โมเดลธุรกิจ

R&G Kiosk (รถเข็นกาแฟสด)

Café Partner (ร้านที่มีพื้นที่อยู่แล้ว)

 

กลุ่มเป้าหมาย

คนอยากเริ่มต้นทำธุรกิจ 
ไม่เคยมีร้านมาก่อน

เจ้าของร้านอาหาร/เบเกอร์รี่/โรงแรม

งบลงทุนเริ่มต้น

140,000 บาท

305,000 บาท

ทำเลที่เหมาะสม

ตลาดนัด, หน้าออฟฟิศ, มหาวิทยาลัย

ร้านขนมและเบเกอรี่, ร้านอาหาร, โรงแรม

ราคาขายต่อแก้ว

45 – 60 บาท

60 – 70+ บาท

เป้าหมายยอดขาย/วัน

80 – 100 แก้ว

100 – 150 แก้ว

ภาพลักษณ์ร้าน

ดูเป็นมิตร, เข้าถึงง่าย

ดูพรีเมียม, เพิ่มมูลค่าแบรนด์

อุปกรณ์ที่ได้รับ

เครื่องชง + เครื่องบด + อุปกรณ์ 71 ชิ้น

เซตอุปกรณ์ 48 รายการ + เมนูพิเศษ

สิทธิพิเศษอื่น ๆ

ไม่มีค่า Loyalty, มีสูตรเมนู, Barista Training 2 วัน

Training 5 วัน, Specialty Menu, ช่วยสมัคร Delivery App, Brush up Training
(*ค่าธรรมเนียมเรทพิเศษ!)

 

ลงทะเบียนรับคำปรึกษา

ข้อดีของการเปิดร้านกาแฟกับ NESCAFÉ

☕️ ร้านกาแฟรถเข็นกาแฟสด (R&G Kiosk)

มีรถเข็นตกแต่งพร้อมเปิดร้าน รวมถึงสื่อตกแต่งหน้าร้านของ NESCAFÉ และการจัดทำติดตั้งป้ายชื่อร้านของผู้ประกอบการ

☕️คาเฟ่พาร์ทเนอร์ (Café Partner)

เราพร้อมผลักดันทุก Passion ให้สามารถเติบโตได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของร้านเบเกอร์รี่ ร้านอาหาร หรือ โรงแรม สามารถเสริมภาพลักษณ์ เพิ่มความน่าเชื่อถือ และสร้างกำไรได้ทุกแก้วด้วยกาแฟสดจาก NESCAFÉ

☕️ มีทีมมืออาชีพดูแลตั้งแต่ต้นจนเปิดร้าน

ไม่ว่าคุณจะเริ่มจากศูนย์หรือมีร้านอยู่แล้ว NESCAFÉ เรามีที่ปรึกษาและทีม Barista Academy คอยเทรนทุกขั้นตอน ทั้งเรื่องเครื่องดื่ม การคิดต้นทุน การบริหารหลังร้าน ไปจนถึงการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

☕️ ได้รับสิทธิ์ใช้แบรนด์ NESCAFÉ อย่างถูกต้อง

เพื่อช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า ว่าจะได้ดื่มด่ำกับเมนูโปรด และได้ดื่มกาแฟคุณภาพที่เหมาะสม

☕️ อุปกรณ์ครบพร้อมเปิดร้านทันที

NESCAFÉ มอบบริการติดตั้งเครื่องชงกาแฟ เครื่องบด จนถึงของใช้เบื้องต้น เช่น แก้ว, เหยือก, ที่ตักกาแฟ, POS (สำหรับบางแพ็คเกจ)

☕️ ไม่เสียค่าแฟรนไชส์หรือส่วนแบ่งรายได้

ผู้ประกอบการสามารถบริหารร้านได้อย่างอิสระ พร้อมรับคำแนะนำจากทีมงานแบบมืออาชีพ ไม่ต้องเสียค่าส่วนแบ่งรายได้ หรือ Loyalty Fees 
(*สำหรับ Café Partner มีค่ากรรมสิทธิ์ 150,000 บาท โดยต้องจ่ายทุก ๆ 3 ปี)

หลังจากทำความรู้จักกับโมเดล R&G Kiosk และ Café Partner กันไปแล้ว คราวนี้มาดูตัวอย่างจริงจากเจ้าของธุรกิจในประเทศลาว ที่เลือกใช้โมเดล Café Partner และสามารถต่อยอดธุรกิจได้สำเร็จจริงกันบ้าง

ลงทะเบียนรับคำปรึกษา

Testimonial จริงจากผู้ประกอบการ


Simple Café เริ่มต้นเส้นทางทำธุรกิจกาแฟสด โดยการผนึกกำลังกับ NESCAFÉ เป็นแห่งแรกในประเทศลาว ซึ่งก่อนหน้านี้ทางร้านมีจำหน่ายเบเกอรี่และขนมหวานอยู่แล้ว และเมื่อได้เข้าร่วมโปรแกรม Café Partner จาก NESCAFÉ ไปเสริมทัพเมนูเครื่องดื่มใหม่ ๆ ที่หลากหลาย พร้อมสูตรชงมาตรฐาน ก็สามารถช่วยต่อยอดธุรกิจ และยกระดับภาพลักษณ์ร้านให้ดูพรีเมียมยิ่งขึ้น เรียกได้ว่า NESCAFÉ ไม่ใช่แค่แบรนด์กาแฟ แต่เป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้ร้านต่าง ๆ ขยายธุรกิจจนเติบโตได้จริง
 

 


หากใครที่สนใจอยากเริ่มต้นธุรกิจเล็ก หรือมีหน้าร้านอยู่แล้ว และต้องการต่อยอด โมเดลธุรกิจกาแฟสดจาก NESCAFÉ คือโอกาสที่จับต้องได้จริง ด้วยการสนับสนุนครบทั้งอุปกรณ์ สูตรกาแฟ การอบรม และสิทธิ์ใช้แบรนด์อย่างมืออาชีพ ช่วยให้คุณ เปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ได้ง่ายขึ้น แม้ไม่มีประสบการณ์ หากคุณพร้อมก้าวสู่เส้นทางเจ้าของร้านกาแฟของตัวเอง ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาเพื่อเริ่มทำธุรกิจได้เลยตอนนี้!

  • ☎️ โทร 02-657-8625 กด 1
  • 📱 แอด LINE ได้ที่ @NestleProfessional

อ่านบทความเทรนด์และไอเดียธุรกิจเพิ่มเติม

5 กลยุทธ์วิธีเพิ่มยอดขายร้านอาหาร สู้ศึกเศรษฐกิจถดถอย!

ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ระมัดระวังในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มมนุษย์เงินเดือน ซึ่งนำมาสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารตามไปด้วย เช่น จากที่เคยซื้ออาหารทานเองทุกมื้อ ก็เปลี่ยนมาลงมือทำกับข้าวพกไปที่ทำงานเอง ซึ่งปัจจัยนี้ส่งผลกระทบให้ร้านอาหารตามสั่งหลายแห่งที่เคยขายดีทุกวัน เริ่มรู้สึกถึงยอดขายที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะร้านตามสั่งที่อยู่ในตึกสำนักงานหรือแม้แต่ร้านสตรีทฟู้ดย่านดังต่าง ๆ 

7 กลยุทธ์บริหารต้นทุนร้านกาแฟ เอาตัวให้รอดในยุคกาแฟแพง!

7 กลยุทธ์บริหารต้นทุนร้านกาแฟ เอาตัวให้รอดในยุคกาแฟแพง!

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเมล็ดกาแฟแพงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากหลายปัจจัย อย่างปัญหาสภาพอากาศที่กระทบต่อแหล่งปลูกเมล็ดกาแฟทั่วโลก ผลที่ตามมาคือผู้ประกอบการต้องเผชิญกับต้นทุนกาแฟต่อแก้วที่สูงขึ้น ทำให้การรักษากำไรและคุณภาพควบคู่กัน กลายเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการในตอนนี้

แน่นอนว่าปัญหานี้สามารถแก้ไขได้หากมีการวางแผนอย่างรอบคอบ และใช้แนวทางเชิงกลยุทธ์ที่เหมาะสม บทความนี้จะพาผู้ประกอบการมาดูวิธีการลดต้นทุนร้านกาแฟ โดยไม่ลดทอนคุณภาพ พร้อมเสนอแนวทางที่นำไปใช้ได้จริง เพื่อรักษาฐานลูกค้าให้อยู่กับร้านคุณได้ในระยะยาว