5 กลยุทธ์ Festive Marketing.jpg

5 กลยุทธ์ Festive Marketing เพิ่มยอดขายให้ร้านอาหารและคาเฟ่

ช่วงเทศกาลคือ โอกาสทองของผู้ประกอบการร้านอาหาร และคาเฟ่ เพราะเป็นเวลาที่ลูกค้าพร้อมจ่ายมากที่สุดสำหรับการฉลองโอกาสพิเศษ และต้องการลองเมนูใหม่ ๆ รวมถึงมองหาประสบการณ์พิเศษกว่าช่วงเวลาปกติ

แน่นอนว่าความสำเร็จไม่ได้มาจากเมนูเทศกาลเท่านั้น แต่ทุกอย่างต้องมีการวางแผนโปรโมตให้ตอบโจทย์ลูกค้า ด้วยความพิเศษ และเข้ากับธีมเทศกาล ดังนั้นการวางกลยุทธ์จึงเป็นหัวใจสำคัญในการเพิ่มยอดขาย สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ และดึงลูกค้าใหม่เข้าร้าน

บทความนี้ Nestle Professional จะพามาดู 5 กลยุทธ์ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ทันที โดยไม่จะเป็นต้องเพิ่มต้นทุนสูง แต่ก็ได้ผลลัพธ์ชัดเจน แต่ก่อนจะไปดูกลยุทธ์เด็ด ลองมาดูกันก่อนดีกว่าว่าทำไมร้านอาหาร และคาเฟ่ถึงจำเป็นต้องมีเมนูพิเศษในช่วงเทศกาลต่าง ๆ และสิ่งเหล่านี้จะตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างไรบ้าง

Festive Marketing คืออะไร?

Festive Marketing คือการทำการตลาดที่อิงกับ “เทศกาลเฉพาะช่วงเวลา” ซึ่งมักเป็นวันที่มีความหมายต่อผู้บริโภค ทำให้พฤติกรรมการจับจ่ายเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ เพราะผู้คนต้องการเฉลิมฉลอง มอบของขวัญ หรือมองหาเมนูพิเศษในช่วงนั้น ๆ โดยในประเทศไทยเอง เทศกาลที่เห็นชัด และกระตุ้นยอดขายร้านอาหาร และคาเฟ่ได้ดีมีทั้งวันปีใหม่, คริสต์มาส, วาเลนไทน์ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเทศกาลช้อปปิ้งที่แบรนด์นิยมทำ เช่น 11.11 / 12.12, Black Friday และ Mid Year Sale เป็นต้น

โดยจุดเด่นของ Festive Marketing คือ “แรงกระตุ้นทางอารมณ์” เพราะลูกค้าพร้อมจ่ายเพื่อความพิเศษมากกว่าช่วงปกติ ทำให้เกิดเป็นโมเมนต์สำคัญของการสร้างยอดขายแบบก้าวกระโดด

Seasonal Marketing คืออะไร? แตกต่างจาก Festive Marketing อย่างไร?

Seasonal Marketing คือการทำการตลาดตาม “ฤดูกาล” ที่ส่งผลต่อความต้องการของลูกค้า เช่น ฤดูร้อน ฤดูฝน หรือช่วงเปิดเทอม ซึ่งความต้องการของลูกค้าจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลเหล่านี้ ทำให้เมนูที่ขายดีในแต่ละช่วงไม่เหมือนกัน เช่น

  • ฤดูร้อน → เครื่องดื่มเย็น ผลไม้สด เมนูชื่นใจขายดีดับร้อน
  • ฤดูหนาว → เครื่องดื่มร้อน เบเกอรี่ โทนอบอุ่น
  • ฤดูฝน → เครื่องดื่มหอม ๆ ให้ความสบายใจ หรือเมนู Comfort Food

ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง 
Festive Marketing vs Seasonal Marketing

หัวข้อ

Festive Marketing

Seasonal Marketing

ระยะเวลา

สั้น เฉพาะวันหรือสัปดาห์

ยาวเป็นเดือนหรือไตรมาส

อารมณ์ลูกค้า

ต้องการเฉลิมฉลองพิเศษ

ต้องการตอบโจทย์สภาพอากาศ / Mood

เมนูที่นิยม

Limited Edition / เมนูธีมเฉพาะ

เมนูเข้ากับสภาพอากาศ

กำลังซื้อ

ค่อนข้างพีคและพุ่งแรง

สม่ำเสมอและช่วงเวลายาวกว่า

โทนการสื่อสาร

สนุก เฉลิมฉลอง

ไลฟ์สไตล์ / Mood Seasonal

ซึ่งแน่นอนว่าการตลาดทั้งสองแบบสำคัญเหมือนกัน แค่ต้องวางแผนให้สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้า เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์การขายมากที่สุด

ทำไมการตลาดช่วงเทศกาลถึงสำคัญ?

  • ลูกค้ายอมจ่ายมากขึ้น เพราะเทศกาลเป็นช่วงที่ต้องการประสบการณ์พิเศษ ไม่ได้ซื้อแค่เมนู แต่ซื้อบรรยากาศ
  • เป็นโอกาสสร้างเมนู Limited Edition ที่เพิ่มมูลค่าสินค้าได้ทันที และทำให้ลูกค้าอยากลอง
  • ร้านมีโอกาสโดดเด่นกว่าคู่แข่ง เพราะเทศกาลทำให้ผู้บริโภคสนใจร้านใหม่ ๆ
  • ช่วยสร้างกระแสบนโซเชียลได้ง่าย ด้วยภาพตกแต่งตามเทศกาล เมนูพิเศษ ที่สื่อถึงการเฉลิมฉลอง
  • เป็นช่วงดึงลูกค้าใหม่เข้าร้าน เพราะคนจะเปิดใจลองเมนูใหม่หรือร้านใหม่มากกว่าปกติ
  • ผลักดันยอดขายแบบพุ่งแรงในเวลาสั้น ๆ โดยไม่จำเป็นต้องลดราคา เพียงแค่สร้างความพิเศษ
  • ช่วยสร้างภาพจำประจำปี เช่น เมนูคริสต์มาสที่ต้องกลับมาซื้อทุกปี กลายเป็นทราฟฟิกประจำร้าน
  • เพิ่มโอกาสขายสินค้าที่เป็นเซ็ตหรือพรีเมียม เช่น Gift Set, Festival Combo, เมนูกลับบ้าน

เทคนิคเลือกเมนูเทศกาลให้ขายดี ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง?

การเลือกเมนูพิเศษที่จะมาโปรโมตในช่วงเทศกาลนั้น ควรเลือกเมนูที่…

  • ทำง่าย ไม่เพิ่มภาระครัว
  • ใช้วัตถุดิบที่ร้านมีอยู่แล้ว
  • มีเรื่องราวหรือสีสันที่เข้าธีมเทศกาล
  • ควบคุมต้นทุนได้ และรสชาติคงที่ เพื่อสร้างความประทับใจทั้งในเรื่องของบรรยากาศ และรสชาติ

ดังนั้นการที่ผู้ประกอบการจะสามารถควบคุมต้นทุน และสร้างสรรค์เมนูอร่อย ๆ ทั้งคาวหวานให้รสชาติคงที่ได้นั้น ขอแนะนำวัตถุดิบจาก Nestlé Professional ที่ผลิตภัณฑ์ของเราคิดมาเพื่อช่วยผู้ประกอบการโดยเฉพาะ ช่วยให้แต่ละเมนูได้รสชาติคงที่ ไม่ว่าร้านของคุณจะมีกี่สาขาก็ตาม

5 กลยุทธ์โปรโมตเมนูเทศกาล

รู้ถึงความสำคัญของเมนูช่วงเทศกาลกันไปแล้ว คราวนี้ลองมาดูกันดีกว่าว่ากลยุทธ์เด็ด ๆ ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถโปรโมตเมนูช่วงเทศกาลได้แบบไวรัล โดนใจผู้บริโภคจะมีอะไรบ้าง

Seasonal Marketing

1. การวางแผนล่วงหน้า

หัวใจของการโปรโมตเมนูโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลคือ การวางแผนล่วงหน้า โดยผู้ประกอบการควรเริ่มด้วยการวิเคราะห์ว่าช่วงไหนของปีคือช่วงไฮซีซั่นบ้าง เช่น

  • เทศกาลคริสต์มาส — คนมองหาเซตอาหารพิเศษ เพื่อการเฉลิงฉลองแบบเป็นกลุ่ม แก๊งเพื่อน, ครอบครัว, ชาวออฟฟิศ ฯลฯ
  • ช่วงปีใหม่ — ร้านไหนที่เปิดร้านในช่วงนี้ มีโอกาสที่จะได้รับรองลูกค้าจำนวนมาก และถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างกำไรให้ร้าน
  • ตรุษจีน  —  เทศกาลเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ที่คนไทยเชื้อสายจีนให้ความสำคัญ และมักรับประทานอาหารร่วมกันทั้งครอบครัว
  • วาเลนไทน์ — คาเฟ่และร้านอาหารที่มีเมนู และโปรโมชั่นสำหรับคู่รัก มีโอกาสสร้างกำไรได้สูงในช่วงนี้
  • กินเจ — ร้านอาหารและคาเฟ่สามารถวางแผนปรับหรือเพิ่มเมนูเจ เพื่อเป็นทางเลือกในการขาย
  • สงกรานต์ — คนในแต่ละพื้นต่างมีจุดมุ่งหมายในการเดินทาง ร้านอาหารและคาเฟ่ที่เปิดขายเมนูสงกรานต์ในช่วงนี้ ถือเป็นข้อได้เปรียบได้การสร้างยอดขาย

ซึ่งการวิเคราะห์สถานการณ์ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ นั้นจะช่วยให้ร้านสามารถวางแผนสต็อกวัตถุดิบ และกำหนดเมนูพิเศษ รวมไปถึงการประเมินราคาขายที่เหมาะสมได้ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการบางร้านอาจมองข้าม หรือเพิ่งเริ่มทำเมนูพิเศษเมื่อใกล้วันจริงเกินไป ทำให้เสียโอกาสสร้างกระแสล่วงหน้า ดังนั้นการเตรียมความพร้อมอย่างน้อย 1–2 เดือน จะช่วยให้การโปรโมตมีพลังมากขึ้น และทำให้ลูกค้ารอคอยเมนูใหม่ของร้าน

2. สร้างโปรโมชั่นแบบพร้อมซื้อทันที

ลูกค้าช่วงเทศกาลต้องการความพิเศษที่มีเฉพาะช่วงนี้เท่านั้น ดังนั้นเมนูของร้านอาหารและคาเฟ่ควรตอบโจทย์ทั้งเรื่องรสชาติ และภาพลักษณ์ เช่น 

โดยไอเดียการสร้างโปรโมชั่นที่มักใช้ได้ผลดีมีมากมาย เช่น

  • Festival Combo Set: เครื่องดื่ม + ของหวานราคาพิเศษ
  • Limited Edition: เมนูเฉพาะช่วง 10–30 วัน
  • แพ็กเกจของขวัญเทศกาล: เบเกอรี่หรือกาแฟแบบกล่องพรีเมียม
  • คูปองเฉพาะเทศกาล: ซื้อเมนูเทศกาลวันนี้ รับขนมฟรี!

การทำเมนูให้เป็นภาพจำ และน่าประทับใจ จะทำให้ลูกค้าอยากแชร์ลงโซเชียล เกิดกระแสแบบปากต่อปาก และช่วยผลักดันให้ยอดเติบโตได้รวดเร็วในช่วงเวลาสั้น ๆ

3. ตกแต่งร้านด้วยบรรยากาศพิเศษ สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าอยากถ่ายรูป

Festive Marketing

 

แน่นอนว่าช่วงเทศกาลคือ ช่วงเวลาที่ผู้คนอยากเก็บบันทึกความทรงจำดี ๆ และมองหาสถานที่ที่ให้ความรู้สึกพิเศษกว่าวันปกติ ดังนั้นการตกแต่งร้านจึงเป็นอีกวิธีที่เพิ่มมูลค่า โดยไม่จำเป็นต้องลดราคา เช่น

  • ตกแต่งด้วยธีมไฟ, โทนสีเทศกาล
  • มุมถ่ายรูปประจำเทศกาล
  • ใช้เพลงเข้าธีมเพื่อสร้างบรรยากาศ
  • เปลี่ยนแพ็กเกจแก้วหรือถ้วยให้มี Mood & Tone ตามเทศกาล

เพราะการสร้างบรรยากาศพิเศษจะช่วยให้ลูกค้า

✔ ใช้เวลานานขึ้น (เพิ่มโอกาสสั่งเพิ่ม)
✔ ถ่ายรูปและแชร์ (กลายเป็นการตลาดฟรี)
✔ รู้สึกว่าร้านให้ความใส่ใจในรายละเอียด

ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสการกลับมาใช้บริการซ้ำในครั้งถัดไป

4. โปรโมตให้ไวรัล ด้วย Social Media Marketing

การโปรโมตเมนูในช่วงเทศกาลนั้น ควรเน้นช่องทางออนไลน์เป็นหลัก เพราะเป็นช่วงที่ผู้บริโภคหาข้อมูลผ่านมือถือมากที่สุด ซึ่งกลยุทธ์ที่มักใช้ได้ผลดีมีมากมาย เช่น

  • คอนเทนต์แนะนำเมนูเทศกาล
    • ภาพถ่ายเมนูธีมเทศกาล
    • วิดีโอสั้น How-to ทำเมนู
    • เบื้องหลังการคิดเมนูพิเศษ
    • รีวิวจากลูกค้าจริง
  • การใช้ Influencer & Micro-KOL
    • Food Blogger หรือ Micro-KOL เหมาะมาก เพราะทำให้เมนูดูพิเศษขึ้น และรีวิวเมนูจริง
  • ยิงโฆษณาแบบระบุพื้นที่ (Geo-targeting)
    • เหมาะกับร้านอาหารและคาเฟ่ที่ต้องการดึงลูกค้าใกล้สาขา เช่น
       “ลดเพิ่มอีก 20% สำหรับเมนูเทศกาล เฉพาะคนพื้นที่xxx”
  • ใช้คีย์เวิร์ดตามเทศกาลเพื่อเพิ่มโอกาสในการค้นหา
    • เมนูคริสต์มาส
    • คาเฟ่วาเลนไทน์
    • ของขวัญให้คนรัก
    • เมนูกินเจ
    • ของขวัญปีใหม่พรีเมียม

โดยเนื้อหาคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับช่วงเวลาเฉพาะตามเทศกาล รวมถึงการใช้คีย์เวิร์ดเฉพาะ จะช่วยให้ร้านมีโอกาสถูกค้นพบมากขึ้นในช่วงเวลาที่มีคนค้นหาเยอะที่สุด

5. ใช้กลิ่น บรรยากาศ และรสชาติ (Sensory Marketing)

หนึ่งในกลยุทธ์ที่สร้างผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดคือ การตลาดผ่านประสาทสัมผัส หรือที่เรียกว่า Sensory Marketing โดยการใช้กลิ่น บรรยากาศ และรสชาติ กระตุ้นความอยาก ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลที่ผู้คนต้องการประสบการณ์แปลกใหม่

เมนูวันคริสมาส

ตัวอย่างการใช้กลิ่น

  • กลิ่นกาแฟสดหอมกรุ่นตอนบดเมล็ด
  • กลิ่นขนมปังอบใหม่ตอนออกจากเตา
  • กลิ่นซินนามอนหรือวานิลลาสำหรับคริสต์มาส
  • กลิ่นดอกไม้, ลิ้นจี่, กุหลาบเพื่อช่วงวาเลนไทน์

ซึ่งกลิ่นจะสามารถสร้างความทรงจำ ทำให้ลูกค้ารู้สึกอบอุ่น และรู้สึกเชื่อมโยงกับเทศกาลได้อย่างทรงพลัง

ตัวอย่างการใช้รสชาติ

  • เมนู Signature เฉพาะเทศกาล
  • เครื่องดื่ม Seasonal ผลไม้ตามฤดูกาล
  • เมนูที่มีความ “ว้าว” เช่น สีพิเศษ, ท็อปปิงพิเศษ

การสร้างประสบการณ์รสชาติที่ไม่ซ้ำใคร ทำให้เมนูกลายเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลนั้น ๆ ที่มีเฉพาะที่ร้านของคุณ และเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าตั้งใจกลับมากินซ้ำทุกปี

เรียกได้ว่าช่วงเทศกาลคือ โอกาสสำคัญที่ร้านอาหารและคาเฟ่สามารถเปลี่ยน “คนเดินผ่าน” ให้กลายมาเป็น “ลูกค้าประจำ” ได้ เพียงแค่เริ่มจากการวางแผนเมนูให้ตอบโจทย์เทศกาล โปรโมตให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างผ่านกลิ่น, รสชาติ และบรรยากาศ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนช่วยเพิ่มยอดขายได้จริงโดยไม่จำเป็นต้องลดราคา และเมื่อร้านออกแบบเมนูเทศกาลอย่างมีระบบ คุณจะเห็นผลลัพธ์ทั้งยอดขายที่เติบโต ความประทับใจของลูกค้า และการกลับมาซื้อซ้ำมากขึ้นในทุกเทศกาลอย่างต่อเนื่อง

หากผู้ประกอบการท่านไหนต้องการวัตถุดิบที่รสชาติคงที่ และโซลูชั่นที่ช่วยให้ร้านทำงานได้เร็วขึ้นในช่วงไฮซีซั่น สามารถติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาทำธุรกิจได้เลยตอนนี้!

  • ☎️ โทร 02-657-8625 กด 1
  • 📱 แอด LINE ได้ที่ @NestleProfessional

อ่านบทความเทรนด์และไอเดียธุรกิจเพิ่มเติม

รวมกลยุทธ์วิธีเพิ่มยอดขายร้านอาหาร

5 กลยุทธ์วิธีเพิ่มยอดขายร้านอาหาร สู้ศึกเศรษฐกิจถดถอย!

ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ระมัดระวังในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มมนุษย์เงินเดือน ซึ่งนำมาสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารตามไปด้วย เช่น จากที่เคยซื้ออาหารทานเองทุกมื้อ ก็เปลี่ยนมาลงมือทำกับข้าวพกไปที่ทำงานเอง ซึ่งปัจจัยนี้ส่งผลกระทบให้ร้านอาหารตามสั่งหลายแห่งที่เคยขายดีทุกวัน เริ่มรู้สึกถึงยอดขายที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะร้านตามสั่งที่อยู่ในตึกสำนักงานหรือแม้แต่ร้านสตรีทฟู้ดย่านดังต่าง ๆ 

Thai noodle

รวมเทคนิคจัดจานอาหารแบบมืออาชีพ เพิ่มยอดขายร้านอาหาร

การจัดจานอาหารเป็นศิลปะที่สำคัญในการดึงดูดลูกค้าและสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ บทความนี้เนสท์เล่ โพรเฟสชันนัลจะมาแนะนำเทคนิคการจัดจานแบบมืออาชีพที่จะช่วยให้คนทำธุรกิจร้านอาหารโดดเด่นและน่าสนใจยิ่งขึ้น