
- เทรนด์ และไอเดียธุรกิจ
- อัปเดตเทรนด์ธุรกิจ
รวมเทคนิค การเพิ่มมูลค่าสินค้า ให้สูงขึ้น ลูกค้ายอมจ่ายด้วยความเต็มใจ
การเพิ่มมูลค่าสินค้า สำคัญมากสำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่ เพราะปัจจุบันมีธุรกิจเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะธุรกิจในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มอย่างธุรกิจร้านอาหาร ร้านน้ำชง หรือ คาเฟ่ ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงเช่นนี้ คติที่ว่า “ยิ่งขายมาก ยิ่งได้กำไรมาก” อาจใช้ไม่ได้อีกต่อไป แต่ยุคนี้ผู้ประกอบการต้องงัดกลยุทธ์ทางการตลาดมาสู้กันอย่างสุดใจ หนึ่งในกลยุทธ์ที่ช่วยสร้างกำไรให้พุ่งโดยไม่ต้องเน้นปริมาณหรือจำนวนการขาย คือ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า นั่นเอง วันนี้ เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ได้มัดรวมเทคนิคการเพิ่มมูลค่าสินค้า ให้ลูกค้ายอมจ่ายด้วย
ความเต็มใจ สร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำแซงทุกร้านในย่าน มาฝากกัน
การเพิ่มมูลค่าสินค้า มีประโยชน์อย่างไรกับธุรกิจยุคนี้
- เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมือใหม่ได้แจ้งเกิดด้วยจุดขายที่แตกต่าง ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะมี ‘ร้านประจำ’ ที่ยืนหนึ่งในใจ และใช้บริการร้านเดิมอยู่ตลอด ดังนั้นหากร้านเราเปิดใหม่ และมีเมนูไม่ต่างจากร้านอื่นๆ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้านี่แหละ ที่จะช่วยสร้างความแตกต่าง นำเสนอเอกลักษณ์เฉพาะของร้านเราได้ดีที่สุด
- เพิ่มแรงจูงใจ ให้ลูกค้ามาใช้บริการ การเพิ่มมูลค่าสินค้าของทางร้านให้โดดเด่นและแตกต่างจากร้านอื่นๆ จะช่วยสร้างความดึงดูดใจ กระตุ้นให้ลูกค้าอยากเข้ามาลองเปิดประสบการณ์ และหากร้านเรามีรสชาติอาหารและเครื่องดื่มที่อร่อยเลิศ ก็จะสามารถมัดใจลูกค้าให้มาเป็นขาประจำได้
- สร้างจุดแข็งให้ร้านโด่งดังอย่างรวดเร็ว ความแตกต่าง ความแปลกใหม่ มักเกิดเป็นกระแสได้อย่างรวดเร็ว และเกิดการบอกต่อๆ กันผ่านการรีวิว ดังนั้นการเพิ่มมูลค่าสินค้า สามารถทำให้ร้านของเราเป็นที่รู้จัก และโด่งดังได้ ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตเร็ว เพิ่มโอกาสทำกำไรและขยายสาขา
- มัดใจลูกค้าเก่า เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ อีกประโยชน์หนึ่งของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า คือทำให้ลูกค้ารู้สึกดีและคุ้มค่าทุกครั้งที่ได้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าของเรา นั่นทำให้ทางร้านสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมและเพิ่มโอกาสซื้อใจลูกค้ากลุ่มใหม่ให้มาเป็นขาประจำได้อีกด้วย
- ลูกค้าหลั่งไหลใช้บริการ ออเดอร์กระหน่ำ การเพิ่มมูลค่าสินค้านอกจากจะสามารถขายในราคาที่สูงกว่าร้านอื่นได้แล้ว หากสินค้าของเราโดนใจ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ก็ทำให้มีออเดอร์เข้ามามากมาย กระตุ้นกำไร สร้างยอดขายเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
- ต้นทุนเท่าเดิม เพิ่มเติมคือกำไรเน้นๆ วิธีการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าส่วนใหญ่ มักใช้ไอเดียสุดสร้างสรรค์ และทักษะการคิดนอกกรอบ ทำให้ผู้ประกอบการไม่ต้องลงทุนเพิ่มมากมาย แต่รับรองว่าขายได้ในราคาที่สูงขึ้นแน่นอน
5 วิธีเพิ่มมูลค่าสินค้า ให้ลูกค้าเต็มใจจ่ายแม้ราคาสูงกว่าร้านอื่น
1. เพิ่มเรื่องเล่า ใส่ลูกเล่น เปลี่ยนเมนูธรรมดา ให้น่าตื่นตาตื่นใจ
วิธีเพิ่มมูลค่าสินค้าที่ทำได้ง่ายๆ คือลองนำเมนูธรรมดาๆ ในร้าน มาสร้างเรื่องราว บอกเล่าถึงแรงบันดาลใจ ความพิถีพิถัน หรือความพิเศษของวัตถุดิบที่เลือกใช้ และสื่อสารออกไปให้ลูกค้าได้รับรู้ผ่านเล่มเมนูของทางร้าน ป้ายเมนูแนะนำ หรือบนสื่อโซเชียลมีเดีย บอกเลยว่าเล่าเรื่องดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ยิ่งเรื่องราวเหล่านั้นทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกร่วมรับรองว่าลูกค้าจะต้องไม่พลาดที่จะควักกระเป๋าจ่ายเงินเพื่อซื้อประสบการณ์สุดแปลกใหม่แน่นอน
- สำหรับร้านอาหาร ลองเปลี่ยนจากเมนูไข่เจียวธรรมดาๆ และใช้วิธีเพิ่มมูลค่าสินค้า ใส่เรื่องราวลงไป นำเสนอเป็นเมนู ไข่เจียวทรงเครื่อง สูตรคุณแม่ ที่เต็มไปด้วยของอร่อยที่ทุกคนชอบกินในวัยเด็ก หรือ เปลี่ยนจากเมนูหมูทอด ข้าวเหนียว ที่หากินได้ทั่วไป นำเสนอเป็น หมูทอด แม็กกี้คาราเมล เมนูหมูทอดกับซอสแม็กกี้ ที่แค่นึกถึงกลิ่นหอมหวนชวนหิวและรสชาติที่เข้มข้น ก็ห้ามใจไม่ไหวแล้ว
- สำหรับร้านน้ำชง หรือ คาเฟ่ ลองใช้วิธีเพิ่มมูลค่าสินค้าต่อยอดเมนูน้ำชงในร้านให้มีเรื่องราวและความน่าสนใจ ชวนให้ลูกค้าอยากลิ้มลองดูสิ เช่น ชาเนสยกล้อ เนสกาแฟ หางแดงเย็น เมนูน้ำชงโบราณที่ความอร่อยล้ำเลิศมาถึงปัจจุบัน ชาไทยน้ำผึ้งมะนาว เมนูชาไทยผสมความเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดเพิ่มวิตามินซีต้านหวัด หรือ ชาไทยออนท็อปมะพร้าวคั่ว ที่ใช้มะพร้าวจากอัมพวามาคั่วหอมๆ เป็นต้น อีกทั้งเมนูขนมหวาน ก็สามารถเพิ่มความน่าสนใจ สร้างสรรค์ต่อยอดจากเมนูธรรมดาๆ ในร้านได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เมนูขนมหวานเย็นชื่นใจอย่าง บิงซูชาไทย ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากน้ำแข็งไสของเกาหลี นำมาผสมผสานกับความเป็นไทย หรือเมนูขนมปังย่างเตาถ่านหอมกรุ่น ที่ความพิเศษอยู่ที่ความล้นของไส้อย่าง ขนมปังไส้ทะลัก ที่ใช้ผงชาไทยรังสรรค์เป็นเมนูขนมหวาน เป็นต้น
2. จัดเสิร์ฟด้วยรูปลักษณ์ที่ต่าง สร้างประสบการณ์ใหม่
แม้ว่าเมนูของเราจะเหมือนกับร้านอื่นๆ แต่หากผู้ประกอบการพยายามคิดไอเดียการนำเสนอที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร ก็สามารถดึงดูดใจลูกค้าให้หันมาเลือกใช้บริการร้านของเราได้ ลองใช้เทคนิคการเพิ่มมูลค่าสินค้าโดยการ จัดเสิร์ฟให้แตกต่าง เพื่อให้ลูกค้ายอมจ่ายเพื่อแลกกับประสบการณ์และรูปสวยๆ ไว้อัปลงโซเชียลเรียกยอดไลก์ ยิ่งถ้าลูกค้าประทับใจและนำไปเขียนรีวิวล่ะก็ ร้านของเราอาจมีกระแส โด่งดังในชั่วข้ามคืน มีลูกค้าหลั่งไหลมาใช้บริการ เพิ่มโอกาสในการโกยกำไรได้อีกเพียบ เช่น ข้าวเหนียวมะม่วงที่เสิร์ฟในรูปทรงดอกกุหลาบ ขนมปังครีมสดชาไทย ที่เสิร์ฟในรูปแบบแซนวิช บัวลอยนมสด ที่มีไส้คิทแคทซ่อนอยู่ด้านใน ไม่เหมือนที่ไหน เป็นต้น
3. เพิ่มความหลากหลายให้เมนูเด็ดของร้าน
ทุกร้านย่อมมีเมนูเด็ด เมนูดัง ลองใช้เทคนิคการเพิ่มมูลค่าสินค้าโดยการหยิบไปผสมผสานกันวัตถุดิบอื่นๆ ให้เกิดเป็นเมนูใหม่สุดสร้างสรรค์ ก็เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าที่สามารถดึงดูดใจชวนให้ลูกค้าอยากลิ้มลองได้ดีไม่น้อย ยกตัวอย่างเช่น หากเมนูยอดฮิตของทางร้านคือ ‘ไมโลเย็น’ ลองใช้วิธีเพิ่มมูลค่าสินค้า ต่อยอดเป็นเมนูใหม่ที่น่าสนใจ เช่น ไมโลกล้วย ไมโลลาเต้ และไมโลภูเขาไฟ หรือหากทางร้านขึ้นชื่อเรื่องชาไทย ลองใช้วิธีเพิ่มมูลค่าสินค้า เป็นเมนูชาไทยที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร เพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ให้ลูกค้าอย่าง ชาไทยสตรอว์เบอร์รี่ ชาไทยอัญชัน และ เค้กลาวาชาไทย เป็นต้น
4. การเพิ่มมูลค่าสินค้า ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่แตกต่าง
บรรจุภัณฑ์ที่ใส่อาหารคือหมัดฮุกที่จะช่วยสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าก่อนที่จะได้ชิมรสชาติอาหาร ผู้ประกอบการลองปรับบรรจุภัณฑ์ให้สวยโดดเด่น มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนร้านไหน เพราะความสวยนี่แหละคือตัวช่วยในการเพิ่มมูลค่าสินค้าให้น่าซื้อขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะซื้อไปกินเองก็ดีต่อใจ ซื้อฝากใครก็ไม่อาย อีกทั้งหากผู้ประกอบการสามารถนำเทรนด์ต่างๆ มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ หรือคิดให้บรรจุภัณฑ์นั้นๆ ตอบโจทย์กับการใช้ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคได้ด้วย ยิ่งช่วยสร้างแรงจูงใจในการซื้อเข้าไปอีก เช่น นำเทรนด์รักษ์โลกมาเป็นแรงบันดาลใจ เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายง่าย ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติอย่าง กล่องข้าวจากชานอ้อย ถ้วยชามกระดาษจากใยกล้วย หลอดดูดน้ำจากไม้ไผ่ ยิ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าที่ทำให้ลูกค้าสายกรีนรู้สึกว่าคุ้มค่าที่จะจ่าย เพราะได้ช่วยโลกในอีกทางหนึ่งด้วย
5. ใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง จากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ
ปฏิเสธไม่ได้ว่ารสชาติอาหารที่อร่อยคงที่ คือการเพิ่มมูลค่าสินค้าที่ยั่งยืนที่สุด และหากร้านของเราเป็นร้านน้ำชง คาเฟ่ หรือ ร้านอาหารครัวเปิด ก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะเห็นวัตถุดิบที่เราใช้รังสรรค์เมนูต่างๆ ด้วย ดังนั้นการเลือกใช้วัตถุดิบจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ เป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยม รสชาติถูกปากคุ้นลิ้นคนไทยนั้นดีที่สุด เพราะนอกจากรสชาติที่เป็นมาตรฐานแล้ว ยังทำให้ร้านดูมีความเป็นมืออาชีพที่คัดสรรแต่วัตถุดิบคุณภาพสูงมาใช้ ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าที่มาใช้บริการด้วย
อย่างผลิตภัณฑ์จาก เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ที่มีคุณภาพ ยืนหนึ่งเคียงคู่ร้านดังในตำนานหลายร้าน ที่สำคัญมีวัตุดิบหลากหลาย ครบครัน ตอบโจทย์ผู้ประกอบการร้านอาหาร อย่างผลิตภัณฑ์ปรุงอาหาร จากแม็กกี้ เช่น ผงปรุงอาหารชนิดเข้มข้น ซอสปรุงอาหาร สูตรผัดกลมกล่อม ซอสหอยนางรม สูตรรสกลมกล่อม และ ผงมะนาวจากมะนาวแท้ นอกจากนี้ยังมีตอบโจทย์ผู้ประกอบการร้านน้ำและเบเกอรี ไม่ว่าจะเป็น ผงกาแฟ ผงชาไทย สูตรเข้มข้น คอฟฟีเมต น้ำผลไม้ชนิดผงสำเร็จรูป ไมโล และ คิทแคท เป็นต้น มาพร้อมการดูแลและให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ มีบริการจัดส่งถึงหน้าร้าน ช่วยให้การบริหารจัดการสต๊อกเป็นเรื่องง่ายอีกด้วย
ผู้ประกอบการที่จะอยู่รอดและเติบโตในสนามธุรกิจ ต้องศึกษาการตลาด รู้จักวางกลยุทธ์ ปรับตัวตามเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภค นำเสนอความแปลกใหม่ให้ร้านเราต่างจากร้านอื่น และรู้วิธีเพิ่มมูลค่าสินค้า เพื่อกระตุ้นกำไรเข้าร้านอยู่เสมอ จึงจะสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง และสร้างผลประกอบการได้อย่างมั่งคั่ง