วีครีม ท็อปปิ้งโฟมคืออะไร? เคล็ดลับทำวิปท็อปปิ้งเพิ่มมูลค่าให้ทุกเมนู

ในโลกของธุรกิจร้านกาแฟและคาเฟ่ “การสร้างความแตกต่าง” คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ลูกค้าอยากกลับมาซื้อซ้ำ และลองชิมเมนูใหม่ ๆ อยู่เสมอ ดังนั้นการเลือกวัตถุดิบที่ใช้งานง่าย ต้นทุนคุ้มค่า และสามารถต่อยอดทำเมนูได้หลากหลายทั้งเครื่องดื่มและขนมหวาน จึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการทุกคนมองหาเพื่อควบคุมต้นทุนไม่ให้บานปลาย

หนึ่งในวัตถุดิบที่นิยมใช้มากที่สุดสำหรับร้านกาแฟและคาเฟ่คือ ครีมเทียม วัตถุดิบสำคัญที่ช่วยสร้างสรรค์ความกลมกล่อมให้กับเมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ นอกจากนี้การมองหาวัตถุดิบที่ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องของรสชาติ แต่ยังสามารถต่อยอดเป็นเมนูใหม่ ๆ ที่แตกต่าง และทำกำไรเพิ่ม ก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ประกอบการร้านกาแฟและคาเฟ่เช่นกัน 

และหนึ่งในทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ครบทั้งเรื่อง ความสะดวก คุณภาพ และความคุ้มค่า ก็คือ วีครีม ท็อปปิ้งโฟมชนิดผง ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจาก เนสท์เล่ โปรเฟสชันนัล วัตถุดิบที่จะมาช่วยอัปเกรดทุกเมนูเครื่องดื่มให้พรีเมียมขึ้น คุ้มค่ายิ่งกว่าเดิม ว่าแต่วีครีม ท็อปปิ้งโฟมชนิดผงคืออะไร และจะแตกต่างจากเนสท์เล่วีครีมหรือครีมเทียมทั่วไปยังไงบ้าง บทความนี้สรุปมาให้แล้ว มาดูกันเลย!

วีครีม ท็อปปิ้งโฟมชนิดผง คืออะไร

วีครีม ท็อปปิ้งโฟมชนิดผง คือโซลูชั่นสำเร็จรูปใหม่ล่าสุดจาก เนสท์เล่ โปรเฟสชันนัล ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ประกอบการร้านกาแฟ คาเฟ่ และร้านเครื่องดื่มโดยเฉพาะ โดยผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติเด่นมากมายที่เหมาะสำหรับการสร้างสรรค์เมนูให้แตกต่าง เช่น…

🥣 ตีขึ้นฟองได้ง่าย ประหยัดเวลา
🥣 ได้โฟมเนียนละเอียด ฟูสวย ไม่แยกชั้น
🥣 ตีหนึ่งครั้ง โฟมคงตัวอยู่ได้นาน 24 ชั่วโมง
🥣 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำวิปท็อปปิ้ง หรือแม้แต่ วิปชีส 
🥣 ต้นทุนคุ้มค่า กำไรต่อแก้วเพิ่มขึ้น
🥣 นำไปใช้ได้หลากหลายเมนู ทั้งเป็นท็อปปิ้งเครื่องดื่ม เบเกอรี่ และขนม

นอกจากการเป็นท็อปปิ้งแล้ว ยังสามารถนำวิปท็อปปิ้งที่ได้ไปตกแต่งแก้วเครื่องดื่มให้น่าดึงดูด และดูพรีเมียมยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าจุดเด่นสำคัญคือ ใช้งานสะดวก ประหยัดเวลา และช่วยควบคุมต้นทุน ทำให้ผู้ประกอบการไม่ต้องคิดสูตรเอง แต่ยังสามารถสร้างเมนูใหม่ ๆ ที่แตกต่าง และเพิ่มกำไรให้กับร้านของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว

วีครีม ท็อปปิ้งโฟมชนิดผง ต่างจากครีมเทียมอย่างไร

ในขณะที่ วีครีม ท็อปปิ้งโฟมชนิดผง เด่นในเรื่องของการทำวิปท็อปปิ้งที่คงตัวได้ยาวนาน แต่วัตถุดิบอย่าง ครีมเทียม คือสิ่งที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อเป็นส่วนผสมใช้แทนนมสด  มีจุดเด่นหลัก ๆ คือ 

🥣 ไม่เสียง่าย
🥣 เก็บได้นาน
🥣 ต้นทุนไม่สูง 
🥣 ให้รสชาติกลมกล่อม 

ซึ่งครีมเทียมนั้นเหมาะสำหรับการนำไปเป็นส่วนผสมชงกับวัตถุดิบอื่น ๆ อย่าง ผงกาแฟ หรือ ผงช็อกโกแลต เพื่อเพิ่มความเข้มข้น และรสชาติกลมกล่อม ซึ่งถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลักของธุรกิจร้านกาแฟ และคาเฟ่เช่นกัน 

ทำความรู้จักและเรียนรู้ความแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิดกันไปแล้ว คราวนี้ลองมาดูกันว่า วีครีม ท็อปปิ้งโฟมชนิดผง จะสามารถนำไปทำสูตรเครื่องดื่มและขนมให้สร้างสรรค์ และแปลกใหม่ได้ยังไงบ้าง

เมนูแนะนำจาก วีครีม ท็อปปิ้งโฟมชนิดผง

1. วิปท็อปปิ้ง สำหรับท็อปบนเครื่องดื่ม

วิปท็อปปิ้งเป็นท็อปปิ้งที่สามารถนำไปใช้ได้ทั้งในเมนูเครื่องดื่มและขนม โดยช่วยเพิ่มเลเยอร์ฟองนุ่ม ๆ บนกาแฟ ชานม หรือโกโก้ ทำให้แก้วดูพรีเมียม และน่าดื่มยิ่งขึ้น ส่วนในขนมก็สามารถใช้เป็นไส้หรือท็อปปิ้งเสิร์ฟคู่กันได้ เช่น นมสดครีมบราวน์ชูการ์บานอฟฟี่ฟรุตทาร์ต ฯลฯ 

ส่วนผสมวิปท็อปปิ้ง

🧁 วีครีม ท็อปปิ้งโฟมชนิดผง (30 กรัม)
🧁 น้ำเย็น (40 มิลลิลิตร)

วิธีทำวิปท็อปปิ้ง

🧁 ตวงน้ำเย็น ผสมกับวีครีมท็อปปิ้งโฟมหนึ่งถุง
🧁 ตีให้เข้ากันจนขึ้นฟู เท่านี้ก็พร้อมใช้งาน

👩🏻‍🍳 เคล็ดลับขายดี

ผู้ประกอบการสามารถต่อยอดความสร้างสรรค์จากเมนูวิปท็อปปิ้งเพิ่มเติมได้ง่าย ๆ แค่ผสมผงชาเขียว, ผงชาไทยผงโกโก้ หรือผงไมโล ก็จะได้เป็นวิปท็อปปิ้งรสชาติต่าง ๆ สำหรับเมนูสร้างมูลค่าเพิ่มอีกเพียบ!

📌 ดูสูตรวิปท็อปปิ้งฉบับเต็ม คลิกที่นี่

2. ชาชีสผลไม้รวม

เมนูชาชีสผลไม้สดชื่นที่ผสมผสานความหอมละมุนของชาเข้มข้น เข้ากับรสหวานอมเปรี้ยวจากผลไม้หลากชนิด ทั้งส้ม สับปะรด และเสาวรส ปิดท้ายด้วยการเติมท็อปปิ้งอย่างวิปโฟมเนียนนุ่ม ที่ช่วยตัดรสให้กลมกล่อมลงตัว เป็นเมนูที่ทั้งสดชื่น อร่อย และดูพรีเมียม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับร้านคาเฟ่ที่อยากเพิ่มตัวเลือกใหม่ ๆ ให้ลูกค้า พร้อมทั้งสร้างภาพลักษณ์แตกต่างจากคู่แข่ง

ส่วนผสมชาชีสผลไม้รวม

🧁 วีครีม ท็อปปิ้งโฟมชนิดผง (40 กรัม)
🧁 ชาเนสที (3 กรัม)
🧁 น้ำร้อน (120 มิลลิลิตร)
🧁 ไซรัปมิตรผล (20 มิลลิลิตร)
🧁 ผลไม้ (แตงโม, มะม่วง, เสาวรส)
🧁 น้ำแข็งแก้ว (16 ออนซ์)

วิธีทำชาชีสผลไม้รวม

🧁 เตรียมน้ำร้อน ตวงผงเนสที คนให้ผงละลาย ผสมไซรัป และเติมเนื้อผลไม้ลงไป
🧁 ตักน้ำแข็งเต็มแก้ว เทเครื่องดื่มตามลงไป ปิดท้ายด้วยท็อปปิ้งวิปโฟมด้านบน เสร็จพร้อมเสิร์ฟ

👩🏻‍🍳 เคล็ดลับขายดี

สร้างสรรค์วิปชีสได้ด้วย ด้วยเนสท์เล่ วีครีม ท็อปปิ้งโฟมชนิดผง และ เนสท์เล่ สวีทไทม์ เพื่อชูรสชาติความเข้มข้น นุ่มละมุน หอมมัน อีกทั้งยังสามารถเพิ่มกิมมิกโดยการโรยผงชีสตกแต่งหน้าเครื่องดื่ม เพื่อเพิ่มความน่ากิน และสัมผัสที่แปลกใหม่ให้กับลูกค้าได้อีกด้วย

📌 ดูสูตรชาชีสผลไม้รวมฉบับเต็ม คลิกที่นี่

3. มะพร้าวโฟมมัทฉะ

อีกหนึ่งเมนูสุดฮิตอย่างมัทฉะ ที่ครั้งนี้มาในรูปแบบวิปท็อปปิ้งเข้มข้น ตัดกับความหอมหวานของน้ำมะพร้าว ได้รสชาติสดชื่น และเพิ่มความพรีเมียมในทุกแก้ว

ส่วนผสมท็อปปิ้งโฟม สำหรับมะพร้าวโฟมมัทฉะ

🧁 วีครีม ท็อปปิ้งโฟมชนิดผง (40 กรัม)
🧁 Matcha BON Café (2 กรัม)

ส่วนผสมเครื่องดื่ม สำหรับมะพร้าวโฟมมัทฉะ

🧁 น้ำร้อน (20 มิลลิลิตร)
🧁 ไซรัปมะพร้าว Senorita (30 มิลลิลิตร)
🧁 น้ำเปล่า (100 มิลลิลิตร)

วิธีทำมะพร้าวโฟมมัทฉะ

🧁 นำ วีครีม ท็อปปิ้งโฟม 40 กรัม ผสมกับ ผงชาเขียว คนให้เข้ากัน พักไว้
🧁 ตวงน้ำเปล่า ผสมกับไซรัปมะพร้าว
🧁 ตักน้ำแข็งเต็มแก้ว เทน้ำมะพร้าวลงไป ตามด้วยวิปท็อปปิ้งมัทฉะด้านบน เสร็จพร้อมเสิร์ฟ

📌 ดูสูตรมะพร้าวโฟมมัทฉะฉบับเต็ม คลิกที่นี่

4. บานอฟฟี่

เมนูขนมหวานขายดี ด้วยการผสมผสานของกล้วยหอมสุกกำลังดี วางบนฐานบิสกิตกรอบแน่น เพิ่มความหอมมันด้วย ซอสคาราเมลเข้มข้น ปิดท้ายวิปท็อปปิ้งเนื้อละมุน และโรยหน้าด้วยผงโกโก้หรือช็อกโกแลตขูด เท่านี้ก็เป็นเสร็จพร้อมวางขายหน้าร้าน

ส่วนผสมบานอฟฟี่

🧁 วีครีม ท็อปปิ้งโฟมชนิดผง (400 กรัม)
🧁 น้ำเย็น (300 กรัม)
🧁 กล้วยหอม
🧁 ครัมเบิ้ลวานิลลา
🧁 ซอสคาราเมล

วิธีทำบานอฟฟี่

🧁 ตวงน้ำเย็น ผสมกับวีครีมท็อปปิ้งโฟมหนึ่งถุง
🧁 ตีให้เข้ากันจนขึ้นฟู (3-5 นาที) พร้อมใช้งาน
🧁 เตรียมถ้วยใส่ครัมเบิ้ลวานิลลา ใส่กล้วยหอม ตามด้วยซอสคาราเมล
🧁 ตกแต่งหน้าขนมด้วย วีครีม ท็อปปิ้งโฟม ลงไป โรยผงโกโก้ พร้อมเสิร์ฟ

📌 ดูสูตรบานอฟฟี่ฉบับเต็ม คลิกที่นี่

5. ไมโลครีมฮอร์น

เมนูขนมทำขายง่าย ๆ แค่มีขนมปังกรอบรูปกรวยอบจนหอม ได้สัมผัสดูกรุบกรอบ สอดไส้ด้วยวิปท็อปปิ้งไมโลเข้มข้น ได้ความกรอบนอก นุ่มใน ทำขายง่ายสร้างกำไรดีแค่มีวัตถุดิบไม่กี่อย่าง

ส่วนผสมไส้ไมโลครีมฮอร์น

🧁 วีครีม ท็อปปิ้งโฟมชนิดผง (400 กรัม)
🧁 น้ำเย็น (300 กรัม)
🧁 ผงไมโล (100 กรัม)

วิธีทำไมโลครีมฮอร์น

🧁 ตวงน้ำเย็น ผสมกับ วีครีม ท็อปปิ้งโฟมชนิดผง หนึ่งถุง
🧁 ตีให้เข้ากันจนขึ้นฟู 
🧁 เติมไมโลผงลงไป มิกซ์ให้เข้ากัน เพียงเท่านี้ก็ได้ไส้ครีมฮอร์นแล้ว

📌 ดูสูตรไมโลครีมฮอร์นฉบับเต็ม คลิกที่นี่


สนใจสูตรเครื่องดื่มและขนมสำหรับทำขายได้จริง
จากผลิตภัณฑ์ วีครีม ท็อปปิ้งโฟมชนิดผง ดูสูตรทั้งหมดที่นี่

การตกแต่งแก้วเครื่องดื่มและขนม เพิ่มมูลค่า

นอกเหนือจากเรื่องของการสร้างสรรค์เมนูแล้ว ในยุคที่ลูกค้าชอบถ่ายรูป และแชร์บนโซเชียล การตกแต่งแก้วเครื่องดื่ม ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังเป็นการสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภคจดจำ และทำตลาดในตัวเอง เพราะของกินที่น่าถ่ายรูป จะทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าที่จ่าย และอยากลองสั่งเมนูใหม่มาลองเรื่อย ๆ

ประโยชน์ของการตกแต่งแก้วเครื่องดื่ม

  • เพิ่มความน่าดื่ม ทำให้เมนูธรรมดาดูน่าสนใจขึ้น
  • สร้างจุดขายบนโซเชียล ลูกค้าชอบแชร์ ถือเป็นการทำการตลาดแบบฟรี ๆ
  • ลูกค้าพร้อมจ่ายแพงขึ้นเมื่อเมนูที่สั่งดูพรีเมียม น่าสนใจ

วีครีม ท็อปปิ้งโฟม ตัวช่วยของร้านกาแฟและคาเฟ่

เรียกได้ว่า วีครีม ท็อปปิ้งโฟมชนิดผง คือคำตอบสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการคุมต้นทุนในเรื่องของการซื้อวัตถุดิบน้อย แต่ต่อยอดได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มแก้วพิเศษหรือของหวานสุดสร้างสรรค์ ก็ทำได้ง่ายในไม่กี่ขั้นตอน ผลลัพธ์คือ เมนูที่ดูพรีเมียม น่ารับประทาน และพร้อมสร้างความต่างให้ร้านคุณเหนือคู่แข่ง ที่สำคัญยังช่วยควบคุมต้นทุน และเพิ่มกำไรได้จริง เรียกได้ว่า เพียงมีเนสท์เล่วีครีม ก็เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว ที่จะพาร้านของคุณก้าวสู่ความสำเร็จในแบบที่ลูกค้าประทับใจ และอยากกลับมาซื้อซ้ำ ๆ อีกในอนาคต

อ่านบทความเทรนด์และไอเดียธุรกิจเพิ่มเติม

แจก 10 สูตรเมนูน้ำและขนมชาองุ่น เมนูยอดฮิตจากเนสที กรีนที เคียวโฮ

ในยุคที่ลูกค้าตามหาเมนูใหม่ ๆ ที่ทั้งสดชื่น อร่อย ทำให้กระแสของ “องุ่นเคียวโฮ” กลายเป็นเมนูยอดฮิตที่ทุกคาเฟ่ไม่ควรพลาด! และในตอนนี้เนสท์เล่ โปรเฟสชันนัลได้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการคือ เนสที กรีนที องุ่นเคียวโฮ ที่จะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าคาเฟ่และร้านน้ำสามารถเสิร์ฟไอเดียเมนูน้ำองุ่นสุดฮิตได้แบบหลากหลาย ทำง่าย ต้นทุนต่ำ และที่สำคัญได้กำไรดี! เหมาะสำหรับผู้ประกอบการทุกคน ไม่ว่าจะร้านเล็กหรือร้านใหญ่

 

อาหารสุขภาพ

เจาะเทรนผู้บริโภคปี 2025 เพื่อการทำธุรกิจร้านอาหารอย่างยั่งยืน

ปี 2025 นี้ถือว่าเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายใหม่ ๆ สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร หรือผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มต้นธุรกิจอาหาร เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งการจะทำธุรกิจอาหารให้ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่แค่รสชาติอาหารที่ต้องโดนใจ แต่ยังต้องตอบโจทย์เทรนด์อย่างเรื่องสุขภาพ ความสะดวกรวดเร็ว และความยั่งยืนอีกด้วย