
- เทรนด์ และไอเดียธุรกิจ
- อัปเดตเทรนด์ธุรกิจ
การจดทะเบียนการค้าร้านค้า มีขั้นตอนยังไง ต้องเตรียมอะไรบ้าง
วิธีจดทะเบียนการค้าหรือการจดทะเบียนการค้าสำหรับธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่ เป็นขั้นตอนสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการก่อนเริ่มดำเนินกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยทั่วไปมี 2 รูปแบบคือ การจดทะเบียนพาณิชย์บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
บทความนี้จะมาแนะนำขั้นตอนการเตรียมตัว และการเลือกประเภทการจดทะเบียนการค้าที่เหมาะสมกับธุรกิจร้านอาหารหรือคาเฟ่ เพื่อให้ผู้ประกอบการทุกคนมีความรู้ ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง พร้อมเปิดร้านได้อย่างมั่นใจและถูกต้องตามกฎหมาย จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย
การจดทะเบียนพาณิชย์คืออะไร
การจดทะเบียนพาณิชย์คือ การจดทะเบียนการค้าร้านค้าที่ทำธุรกิจค้าขาย เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่นั้นน่าเชื่อถือ ทำมาค้าขายอย่างเปิดเผย และเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังมีหน้าที่ต้องเสียภาษีตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม, ภาษีที่ดินในกรณีที่มีการเช่าพื้นที่ทำร้านอาหารหรือคาเฟ่, ภาษีป้าย ฯลฯ
สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจร้านอาหารหรือคาเฟ่แบบมีที่นั่งรับประทานในร้าน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจดทะเบียนการค้า ยกเว้นเสียแต่ว่าการขายอาหารหรือเครื่องดื่มนั้น ดำเนินในลักษณะที่เป็น “รถเข็น หาบเร่ หรือตั้งเป็นร้านค้าแผงลอย” ซึ่งร้านค้าในลักษณะดังกล่าว กฎหมายได้ยกเว้นว่าไม่ต้องจดทะเบียนการค้า
ประเภทของการจดทะเบียนพาณิชย์
1. การจดทะเบียนการค้าบุคคลธรรมดา
การจดทะเบียนร้านอาหารและคาเฟ่ การจดทะเบียนการค้าบุคคลธรรมดา ต้องจดภายใน 30 วัน นับแต่วันเริ่มเปิดกิจการ และเมื่อจดทะเบียนการค้าเรียบร้อยแล้ว เจ้าของกิจการต้องแสดงใบทะเบียนการค้า (ใบทะเบียนพาณิชย์) ไว้ภายในร้านค้าซึ่งต้่องเป็นบริเวณที่คนทั่วไปมองเห็นได้ง่าย และต้องติดป้ายชื่อไว้หน้าร้านให้เห็นชัดเจนด้วย
เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมสำหรับจดทะเบียนแบบบุคคลธรรมดา
- เอกสารคำขอจดทะเบียนการค้าบุคคลธรรมดา
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้จดทะเบียนการค้า
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้จดทะเบียนการค้า
- ในกรณีที่ผู้จดทะเบียนการค้าไม่ได้เป็นเจ้าของสถานที่ตั้งร้านค้า จำเป็นต้องแนบเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
- หนังสือให้ความยินยอมให้ใช้สถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่
- สำเนาทะเบียนบ้านที่แสดงให้เห็นว่าผู้ให้ความยินยอมเป็นเจ้าบ้าน หรือสำเนาสัญญาเช่าพื้นที่
- แผนที่ตั้งของร้าน
- หนังสือมอบอำนาจ (กรณีที่ไม่ได้ไปยื่นจดทะเบียนด้วยตัวเอง)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (กรณีไม่ได้ไปยื่นจดทะเบียนด้วยตัวเอง)
- ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน 50 บาท
สถานที่สำหรับจดทะเบียนแบบบุคคลธรรมดา
- กรุงเทพฯ
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
- สำนักการคลัง
- สำนักงานเขตทุกเขต (ภายในเขตที่ธุรกิจตั้งอยู่เท่านั้น)
- ต่างจังหวัด
- ยื่นจดทะเบียนได้ที่เทศบาล
- องค์การบริหารส่วนตำบล ที่ร้านของผู้ประกอบการตั้งอยู่
ตัวอย่างเอกสารคำขอจดทะเบียนการค้า ทพ.
ขอขอบคุณที่มา: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
2. การจดทะเบียนการค้าแบบนิติบุคคล
วิธีจดทะเบียนร้านค้าแบบนิติบุคคล อาจมีความซับซ้อนกว่าการจดทะเบียนแบบบุคคลธรรมดา ซึ่งจะเหมาะกับร้านอาหารและคาเฟ่ที่ต้องการขยายสาขาหรือมีหุ้นส่วนหลายคน ซึ่งจะมีกฏระเบียบต่าง ๆ ที่ผู้ประกอบการต้องทำตาม เช่น การจัดทำบัญชี การยื่นภาษีต่าง ๆ รวมถึงการทำบัญชี เป็นต้น
เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมสำหรับจดทะเบียนแบบนิติบุคคล
- เอกสารคำขอจดทะเบียนการค้า
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เป็นหุ้นส่วนกิจการทุกคน
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้เป็นหุ้นส่วนกิจการทุกคน
- หนังสือหรือสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคล
- หนังสือให้ความยินยอมให้ใช้สถานที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่
- สำเนาทะเบียนบ้านหรือสำเนาสัญญาเช่าโดยมีผู้ให้ความยินยอมเป็นผู้เช่า หรือเอกสารสิทธิ์อย่างอื่น ที่ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เป็นผู้ให้ความยินยอม
- แผนที่แสดงที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ และสถานที่สำคัญบริเวณใกล้เคียงโดยสังเขป
- ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน
สถานที่สำหรับจดทะเบียนแบบนิติบุคคล
- กรุงเทพฯ
- สำนักงานกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
- กระทรวงพาณิชย์
- ต่างจังหวัด
- สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนั้น ๆ
ผู้ประกอบการสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มทะเบียนพาณิชย์แบบต่าง ๆ ได้ที่นี่
การจดทะเบียนร้านอาหารและคาเฟ่ต่างกันหรือไม่
ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือคาเฟ่ ก็มีขั้นตอนการขอจดทะเบียนร้านไม่ต่างกัน ทั้งนี้สิ่งที่ต่างขึ้นอยู่กับประเภทการขอจดทะเบียนการค้า เป็นหลัก
นอกเหนือจากนี้หากร้านอาหารหรือคาเฟ่ ต้องการจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องมีการขอใบอนุญาตขายสุราจากกรมสรรพสามิตตามกฎหมายเพิ่มเติมด้วย
ร้านขายอาหารออนไลน์ (Ghost Kitchen) ต้องจดทะเบียนการค้าไหม
สำหรับผู้ประกอบการที่ขายอาหารแบบไม่มีหน้าร้านหรือทำขายผ่านเดลิเวอรี่ ก็จำเป็นที่จะต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์หรือดำเนินการจดทะเบียนการค้าออนไลน์เช่นกัน หากผู้ประกอบการคนไหนที่ทำการค้าแล้วไม่จดทะเบียน ก็จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. ทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 ซึ่งต้องจ่ายค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท และมีค่าปรับรายวันอีกวันละไม่เกิน 100 บาท
โดยขั้นตอนการจดเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์หรือจดทะเบียนการค้าออนไลน์นั้น เหมือนกับการจดทะเบียนพาณิชย์ธรรมดาและนิติบุคคล แต่อาจมีเอกสารอื่นเพิ่มเติม เช่น
- รูปปริ้นท์หน้าแรกของหน้าร้านอาหาร (แพลตฟอร์มขายอาหารหรือโซเชียลมีเดียของร้าน)
- เมนูต่าง ๆ
- วิธีการสั่งอาหาร
- วิธีการชำระเงิน
- วิธีการส่งอาหาร
โดยเอกสารเหล่านี้จำเป็นต้องแนบไปในขั้นตอนการยื่นจดทะเบียนด้วย
ทำไมร้านอาหารและคาเฟ่ควรจดทะเบียนพาณิชย์
การจดทะเบียนร้านอาหารและคาเฟ่ ไม่ใช่แค่ข้อปฏิบัติทางกฎหมายเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีในด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น
- เพิ่มความน่าเชื่อถือให้ร้านค้า และเป็นหลักฐานทางการค้า
- สามารถขอยื่นกู้หรือทำธุรกรรมกับสถาบันทางการเงินได้ราบรื่นขึ้น
- ประหยัดค่าภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาที่เสียภาษีสูง โดยภาษีเงินได้ที่ต้องเสียสูงสุดหลังหักค่าใช้จ่ายสำหรับนิติบุคคลอยู่ที่ 20% และการจดทะเบียนพาณิชย์บุคคลธรรมดาสูงสุดอยู่ที่ 35%
ร้านอาหารและคาเฟ่แบบใดที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอใบอนุญาต
- สถานที่ผลิตอาหารที่ไม่เข้าข่ายโรงงาน
- อาหารที่ผู้ผลิตสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารแก่ผู้บริโภคได้ เช่น หาบเร่ แผงลอย เป็นต้น
- อาหารสดที่ไม่ผ่านกรรมวิธีใด ๆ หรืออาหารสดที่ผ่านกรรมวิธีการแกะ ชำแหละ ตัดแต่งหรือวิธีการอื่นใดเพื่อลดขนาด บรรจุในภาชนะที่สามารถมองเห็นอาหารสดนั้นได้ เช่น ผักผลไม้สด เนื้อสัตว์ เป็นต้น
- อาหารในภาชนะบรรจุที่ผลิตและจำหน่ายเพื่อบริการภายในร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม โรงเรียน สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล สถานที่อื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน
ถ้าจดทะเบียนการค้าแล้วต้องเสียภาษีหรือไม่
แม้ว่าจะจดทะเบียนการค้าแล้ว ผู้ประกอบการยังคงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีด้วย โดยจำเป็นต้องมีวางแผนภาษี และยื่นภาษีให้ถูกประเภท และสิ่งที่จะช่วยแบ่งเบาภาระในการทำธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่ได้นั่นก็คือ การใช้สิทธิลดหย่อนต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น และสามารถบริหารร้านค้าและเวลาได้โปรกว่าใครในทุก ๆ ด้าน
เรียกได้ว่าการการจดทะเบียนพาณิชย์คือ หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น น่าเชื่อถือ และถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดทางกฎหมายตามมาภายหลัง
สำหรับผู้ประกอบการคนไหนที่สนใจ อยากได้รับคำแนะนำในการทำธุรกิจคาเฟ่ สามารถติดต่อเนสท์เล่ โพรเฟสชันนัลได้เลยวันนี้
- โทร 02-657-8625 กด 1
- แอด LINE ได้ที่ @NestleProfessional
ขอขอบคุณที่มา